4 มีนาฯ เวียนมาบรรจบ ครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์ประวัติศาสตร์กะเทยผ่านศึก
ช่วงราว ๆ 21:00 น. ของวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม เมื่อปีที่แล้ว เกิดปรากฏการณ์ร่วมแรงร่วมใจของผู้หญิงข้ามเพศชาวไทยกว่า 100 ชีวิต ณ โรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พำนักของกลุ่มหญิงข้ามเพศชาวฟิลิปปินส์ผู้ก่อเหตุตบตีทำร้ายร่างกายเพื่อนกะเทยไทยในซอยสุขุมวิท 11 โซเชียลมีเดียแห่ขนานนามให้เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นตำนานกะเทยไทย เป็นเรื่องเล่าขานแก่ทรานส์รุ่นใหม่ และเป็นหมุดหมายของการทวงคืนศักดิ์ศรี ที่ไม่ใช่แค่ของพี่กะเทยทั่วไป แต่รวมไปถึงเหล่าพี่กะเทยผู้ให้บริการทางเพศอีกด้วย แต่จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ศักดิ์ศรีที่ว่าก็ยังคงไม่มีกฎหมายมารองรับ คุ้มครอง และบอกให้คนในสังคมได้ทราบทั่วกันว่าเพศสภาพของพวกเธอขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘ผู้หญิง’ และอาชีพของพวกเธอนั้นสุจริตจริงและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
“4 มี.ค. ของปีที่แล้วเป็นวันจันทร์ แต่ 4 มี.ค. ของปีนี้เป็นวันอังคาร”
นี่อาจเป็นความเปลี่ยนแปลงเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นหลังเวลาผ่านไป 365 วัน เพราะผู้ให้บริการทางเพศยังมีโทษทางอาญา พื้นที่ทำกินอย่างเช่นที่สุขุมวิท 11 ยังอยู่ใต้อาณัติและบรรดาอิทธิพลสีเทาจากผู้มีอำนาจทางกฎหมาย อีกทั้งคนไทยหมู่มากก็เริ่มจะลืมเลือน “Sex Work is Work” กันไปพร้อมกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ไหลค่อยลงเรื่อย ๆ เพราะแม้ว่าการแก้ไข/ยกเลิก พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มีการผลักดันจากหลายภาคส่วนตลอดเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ 4 ร่างฯ ฉบับสำคัญที่ภาครัฐและภาคประชาชนร่วมกันผลักดันยังคงไม่มีทีท่าจะเดินหน้าไปสู่การมีผลบังคับใช้ หรือแม้แต่ถูกนำเข้าไปพิจารณาในรัฐสภา
ปัจจุบัน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการให้บริการทางเพศ ของ พม. ยังคงมีสถานะ ‘อยู่ระหว่างการติดตามความคืบหน้า’ และล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมในการยื่นเข้าสู่ ครม. เป็นเวลากว่า 1 ปี 3 เดือน ในขณะที่ร่าง พ.ร.บ.บริการทางเพศ และคุ้มครองผู้ให้บริการ ของพรรคประชาชน ที่พัฒนามาจากร่างฯ เก่าของพรรคก้าวไกลยังคงไม่ถูกยื่นเข้าสู่สภาฯ และมีสถานะ ‘อยู่ระหว่างศึกษากฎหมายจากต่างประเทศเพิ่มเติม’ ในส่วนของภาคประชาชน ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี โดยพนักงานบริการและ SWING ที่มีผู้ร่วมเสนอร่างจากทุกจังหวัดรวมกว่า 13,975 ราย กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ แต่การยกเลิกเพียงอย่างเดียวอาจไม่ครอบคลุมมากพอที่จะปกป้องและทวงคืนสิทธิและศักดิ์ศรีของอาชีพพนักงานบริการ ทำให้เมื่อวาน (3 มี.ค.) ได้เกิดอีกหนึ่งร่างฯ โดยกลุ่มพนักงานบริการทางเพศและมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ที่มุ่งเน้นไปยังการยกเลิก พ.ร.บ.เดิม และเสริมด้วยการเรียกร้องให้มีกฎหมายคุ้มครองพนักงานบริการทางเพศ ทั้งในด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย สิทธิ และคุณภาพชีวิตของพวกเขาและเธอ
เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน 11 วัน หลังสภาฯ โหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศฯ ซึ่งเสนอโดย สส.พรรคก้าวไกล ไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สื่อทุกสำนักกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าหลังสมรสเท่าเทียมผ่าน ด่านถัดไปควรเป็นการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ แต่ถึงกระนั้นร่าง พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศและคำนำหน้านามยังคงย่ำอยู่กับที่ในฐานะ พ.ร.บ. ที่มีการพูดถึงบ่อยครั้งเป็นอันดับต้น ๆ โดยสส.จากทั้งสองฝ่ายในสภาฯ แต่ร่างฯ กลับมีสถานะเป็นเรื่องค้างพิจารณาในวาระการประชุมอยู่ตลอด ทั้งยังมีอคติเกลียดชังคนข้ามเพศที่จดจ่อจะจู่โจมพี่กะเทยที่ส่งเสียงเรียกร้องสิทธิการแก้ไขคำนำหน้าอยู่เสมอ แม้ว่าสมรสเท่าเทียมจะเปิดประตูสู่เส้นทางใหม่ สู่สังคมที่โอบรับความหลากหลายมากขึ้น แต่การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศยังคงไม่ถูกเล็งเห็นและยกเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้น คำว่า ‘กะเทย’ จึงอาจกลับไปเป็นคำดูถูกเหยียดหยามได้ทุกเมื่อ
หากจะกล่าวว่า “สุขสันต์วันกะเทยผ่านศึก” ก็คงพูดไม่ได้ไม่เต็มปาก เพราะในวันนี้กะเทยไทยยังคงต้องใช้ชีวิตผ่านสมรภูมิการต่อสู้ รบรา และเรียกร้องอย่างยากลำบากเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นธรรมตามวิถีกะเทย
Content by kulkul
Graphic by Frogman
อ้างอิง
the active: https://bit.ly/3FgZ8UQ
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”