Spectrum

จู๋ใหม่ใกล้ฉัน  กระเจี๊ยวปลูกได้ ผลไม้ต้องห้าม (แย่ง) : แรงปรารถนา การเมืองใส่ไข่และความกังวลใจชายยุคกลาง

3 นาที

3

Share to

พฤษภาคม 14, 2025

3 นาที

3

พฤษภาคม 14, 2025

Share to

เมื่อองคชาติงอกงามบนต้นไม้ ก็ยากจะบอกได้ว่าโลกจะจมดิ่งสู่ความโกลาหลหรือเฉลิมฉลองด้วยความหฤหรรษ์

ราวศตวรรษที่ 13-16  ต้นลึงค์ (Phallus tree) แผ่กิ่งก้านสาขาพร้อมชูช่อองคชาตไปทั่วผืนแผ่นดินยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลี อังกฤษ และฝรั่งเศส  ในลักษณะของงานจิตรกรรมประดับพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ ฝาผนังของสถานที่สำคัญ เรือนร่างของภาชนะ หรือต้นฉบับตัวเขียนสีวิจิตร (illuminated manuscripts) 

เซ็กส์ทอยออแกนิกส์เหล่านี้มิได้ชูชัน ออกผลอย่างโดดเดี่ยว จุดร่วมของภาพวาดเหล่านี้คือเหล่าสตรีที่รอคอยการเก็บเบื้องล่าง ผลัดเปลี่ยนใบหน้าสุดแต่จินตนาการของผู้วาด จึงมีทั้งหญิงสูงศักดิ์ สาวชาวบ้าน หรือ สตรีแรกรุ่น ทว่าใบหน้าที่อาจชวนสะดุดใจให้กับผู้ชมมากที่สุด คือ คือเหล่าแม่ชีที่ปรากฏอยู่ใน ภาพส่วนท้าย (bas de page) ของต้นฉบับหนังลูกวัว ที่บันทึกบทกวีเปรียบเทียบว่าด้วยความรักในราชสำนัก Roman de la Rose (Romance of the Rose) คาดว่าถูกวาดขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดย ฌาน เดอ มงบัสตง (Jeanne de Montbaston) จิตรกรหญิงแห่งยุคกลาง ซึ่งต้นฉบับได้รับการเก็บรักษาไว้ที่ Bibliothèque Nationale de Paris

แม่ชีของ Jeanne เสมือนแอปเปิลต้องห้ามของคอนแวนต์ ยืนเก็บเกี่ยวผลองคชาติสุกงอมลงตะกร้าเหมือนพืชผลทั่วไป ณ มุมซ้ายของแผ่นหนัง ในต้นฉบับเดียวกันนี้ ยังพบภาพของแม่ชีสองคนที่เอื้อมมือเด็ดผลของต้นลึงค์จากต้น ก่อนซุกไว้ในรอยพับของเสื้อคลุม  ไม่มีใครสามารถถอดรหัสความหมายที่แท้จริงของแม่ชีผู้ซุกซนและผลไม้เซ็กซี่เหล่านี้ได้ ทว่า ภาพดังกล่าวได้จุดประกายข้อสังเกตและการศึกษามากมายจากนักวิชาการ ซึ่งพยายามตีความบทบาทและนัยยะที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

อาจเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้นฉบับหลายเล่มในยุคกลางจะถูกตกแต่งด้วยอวัยวะเพศชายเพื่อความสนุกสนาน แต่อาจไม่ใช่กับ  Lucy Allen (2013) นักวิชาการยุคกลาง ที่มีความสนใจในประเด็นนักเขียนหญิงช่วงยุคกลาง เธอเสนอว่าแม่ชีเหล่านี้เก็บเกี่ยวอวัยวะเพศชายด้วยความสงบนิ่ง เพื่อโต้ตอบกับความเป็นชายของบทกวีดังกล่าว โดยอ้างถึงตัวละครที่ชื่อ Genius ที่มองว่า ชายทุกคนควรใช้ประโยชน์จากผู้หญิงในฐานะวัตถุทางเพศ และเขายังเปรียบเทียบการเขียนกับการสอดใส่ โดยมองว่าผู้หญิงเป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีชีวิตจิตใจ เปรียบได้กับหน้ากระดาษว่างที่ยังไม่ได้เขียน ร้ายแรงถึงขั้นว่า “ชายใดก็ตามที่ไม่ใช้ “เครื่องมือ” (Tools) ของตน  เขียนลงบนแผ่นจารึกอันสวยงามและล้ำค่าที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเพื่อพวกเขาก็ควรจะถูกตัดองคชาตและลูกอัณฑะเสีย” ซึ่ง “เครื่องมือ”  ที่ Genius ใช้ในที่นี้ มีความหมายได้ทั้ง ปากกา และ องคชาต ในภาษาฝรั่งเศสดั้งเดิม ดังนั้น Lucy จึงเชื่อว่าภาพแม่ชีของ Jeanne อาจตีความได้ว่าเธอกำลังประชดประชันแนวคิดนี้อยู่  “ถ้าการมีองคชาตหมายถึงการมีสิทธิ์เล่าเรื่องราวดีๆ ได้งั้นดูสิ ฉันมีตั้งกี่อัน!” คือข้อสรุปของ Lucy

แม้ขอเสนอของ Lucy จะน่าสนใจ แต่การที่ผู้หญิงจะใฝ่หาองคชาติด้วยตัวเองนั้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าหาด้วยท่าทีสงบเพื่อเอาชนะความเป็นชายเพียงอย่างเดียว ต้นลึงค์เหล่านี้อาจแสดงถึงความปรารถนาที่แท้จริง และให้อำนาจของสตรีอย่างเต็มที่ในการเก็บเกี่ยวมัน เช่นเดียวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังของน้ำพุแห่งเมืองมาสซา มาริตติมา ในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี ซึ่งคาดว่าถูกวาดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยเป็นภาพของต้นไม้ที่มีองคชาติคละไซซ์นับรวมได้ถึง 25! อัน และมีเหล่าสตรีมากมายอยู่เบื้องล่าง คอยเก็บเกี่ยว ต่อสู้แย่งชิงผลไม้ยวนใจชนิดนี้ ราวกับงานศิลปะที่มีไว้เพื่อประกาศอิสรภาพทางกามารมณ์ของสตรี ซึ่งต่อมาในปี 2008 ก็ได้เกิดกระแสความไม่พอใจของชาวเมืองต่อการบูรณะภาพ เพื่อทำความสะอาดอย่างเต็มรูปแบบ เพราะพวกเขาพบว่า ภาพได้รับความเสียหายจากการถูกทาสีทับ น้ำซึม และคราบตะกรัน โดยบางคนอ้างว่างานบูรณะได้ “เซ็นเซอร์” ภาพต้นฉบับ ด้วยการขัดหรือลบลูกอัณฑะบางส่วนที่ห้อยลงมาจากกิ่งไม้ และลดขนาดของลึงค์บางอันลง 

มุมมองการตีความหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวข้องกับการเมืองอิตาลี  มาจาก George Ferzoco ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาทัสคานี (Centre for Tuscan Studies) มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ที่ระบุว่าภาพชนิดนี้เป็นเสมือนโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ของฝ่าย Guelphs เพื่อต่อต้าน Ghibellines โดยมีความหมายว่า หากประชาชนมอบอำนาจให้กลุ่มกิเบลลีนส์ (Ghibellines) พวกเขาจะนำพาความวิปริตทางเพศและไสยศาสตร์มาด้วย และเหล่าผู้หญิงที่แต่งกายด้วยเสื้อคลุมและยืนอยู่ใต้ “ต้นลึงค์” ในภาพจิตรกรรมฝาผนังของ Massa Marittima นั้นคือแม่มด ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่าย Guelphs ใช้กล่าวหา Ghibellines มาโดยตลอด

สอดคล้องกับความหวาดกลัวของบรรดาชายยุคกลาง ที่เชื่อว่าจะแม่มดสามารถทำให้อวัยวะเพศหด หรือ หายไปได้โดยไม่จำเป็นต้องลงมือตัดมัน ในบันทึกการล่าแม่มด Malleus Maleficarum (1485) กล่าวว่าแม่มดจะขโมยองคชาติของชายหนุ่มผู้โชคร้ายและนำไปเลี้ยงไว้ในรังบนต้นไม้ โดยให้อาหารเป็นข้าวโอ๊ตและข้าวสาลีกับพวกมัน ในตำราเล่มนี้ยังระบุว่าแม่มดสามารถเลี้ยงองคชาติเหล่านี้ได้ 20-30 อันบนต้นไม้ต้นเดียว และมีเรื่องเล่าต่อว่า ชายผู้หนึ่งได้สูญเสียอวัยวะเพศของตัวเอง เขาจึงไปขอคืนกับแม่มด  แม่มดสั่งให้เขาปีนขึ้นต้นไม้ และให้เลือกองคชาตจากในรังเหล่านั้น ทว่าเมื่อเขาจะหยิบชิ้นที่ใหญ่ที่สุด แม่มดกลับบอกเขาว่า “เจ้าเอาอันนั้นไปไม่ได้ เพราะมันเป็นของบาทหลวงประจำโบสถ์ของเรา”

ต้นลึงค์จึงสามารถเป็นได้ทั้งการโต้กลับของจิตรกรหญิง ผู้หาที่ทางให้ตัวเองบนบทกวีที่เต็มไปด้วยการสั่งสอนผู้หญิง การยืนยันในอำนาจของปลดปล่อยแรงปรารถนาตามธรรมชาติของสตรีเพศ หรือเครื่องมือสะท้อนความกลัวของเพศชายที่มีต่อภาวะการถูกตอน เป็นหมัน มีบุตรยากหรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พวกเขาอาจหวาดหวั่นต่อคำถามในใจ ว่าถ้าจู๋เก็บได้ ผู้ชายจะยังสำคัญอยู่ไหม บนโลกใบนี้

Content by: พัชรพร ศุภผล

Graphic by Kasidit Taranabhaiboon

อ้างอิง

ABC: https://bit.ly/3H947Ib

Adrian S.Hoch,”Duecento Fertility Imagery for Females at Massa Marittima’s Public Fountain”, Zeitschrift fur Kunstgeschichte, 69. Bd., H. 4 (2006), pp. 471-488

Biblissima: https://bit.ly/4kcgl10

George Ferzoco, The Massa Marittima Mural: Regional Council of Tuscany Central  Communication Unit, 2004  

J. Mattelaer. (2010). The Phallus Tree: A Medieval and Renaissance Phenomenon,

The Journal of Sexual Medicine, Volume 7, Issue 2, Part 1, 2010,

Marie de Guise-Lorraine: https://bit.ly/3SAjH25

Roman de la Rose: https://bit.ly/43d9gq7

.

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl