Spectrum

ชู้สาว ละเมิด หมิ่นประมาท และ 112 ความไม่สมเหตุสมผลทางกฏหมายที่ทำให้เรื่อง ‘ผู้ชายนอกใจ’ กลายเป็นเหยื่อคนล่าสุดในคดี 112

3 นาที

3

Share to

มกราคม 20, 2025

3 นาที

3

มกราคม 20, 2025

Share to

วันนี้ (20 ม.ค. 68) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ตัวแทนทางกฎหมายของฝั่งคู่กรณีแสตมป์ระบุว่า คู่กรณีไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว ขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบันมาตรา 112 ที่นอกเหนือการจัดการ เนื่องจากได้ไปให้ข้อมูลกับการกองทัพบกแล้ว ก่อนหน้านี้ฝ่ายแสตมป์ได้ฟ้องคู่กรณีทั้งหมด 4 คดี ได้แก่ คดีหมิ่นประมาท ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี, คดีหมิ่นประมาทที่ศาลแขวงดุสิต, คดีหมิ่นประมาทที่ศาลแพ่ง โดยทั้ง 3 คดีหมิ่นประมาทแสตมป์ได้ถอนฟ้องไปแล้ว และอีก 1 คดีละเมิด (รายละเอียดระบุถึงพฤติกรรมชู้สาว) ที่ได้มีการไกล่เกลี่ยจบแล้วก่อนหน้า ศาลสั่งจ่ายเงินทดแทน 1 ล้านบาท จากการเรียกค่าทดแทน 10 ล้านบาท 

ก่อนจะถึงการส่งข้อมูลในกองทัพบกในคดี 112 ทั้งฝ่ายแสตมป์และครอบครัวคู่กรณีได้ฟ้องกันไป-มาแล้วรวม 4 คดี ดูเหมือนว่าความคาราคาซังทางกฏหมายนั้นจะเกี่ยวโยงกับความสัมพันธ์และการพูดความจริง รวมถึงความรับผิดชอบทางความรู้สึก และความพยายามแก้แค้นเอาคืนของทั้งสองฝ่ายที่มีรอยร้าวรุนแรงมาก่อนแล้ว แม้ท้ายที่สุดทนายทั้งสองฝ่ายจะยุติการดำเนินคดีอื่น ๆ แล้ว แต่สิ่งที่เลยเถิดคือการยื่นข้อมูลที่อาจละเมิดมาตรา 112 ให้กองทัพบก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือในการฟ้องปิดปาก (SLAPP) เพื่อให้แสตมป์ถอนฟ้องคดีอื่น ๆ ไป

มาตรา 112 ถูกวิจารณ์เรื่องขอบเขตบังคับใช้ ผู้ยื่นฟ้อง และสัดส่วนของโทษมาตลอด ในรายการโหนกระแส (20 ม.ค. 68) แสตมป์ อภิวัชร์ก็ยอมรับตามตรงว่าเหตุผลที่เขายอมเปิดเผยเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะกลัวติดคุก และหากแสตมป์ อภิวัชร์ ซึ่งเราทุกคนรู้ความจริงทั่วกันแล้วในวันนี้ว่ามีพื้นฐานมาจากการนอกใจ โกหก และปั่นหัว ต้องรับผิดในคดี 112 มันคงเป็นการบังคับใช้กฏหมายที่ไม่สมเหตุสมผลและบ้าบอคอแตกที่สุด

และเราต้องร่วมกันยืนยันว่ากฏหมายต้องสามารถเอาผิดที่ผู้ชายคนหนึ่งนอกใจ โกหก และปั่นหัว โดยไม่ต้องใช้สิ่งอื่นใดมา ‘ข่มขู่’

#เกิดอะไรขึ้นบ้างในเรื่องก่อนหน้านี้ – แสตมป์ผู้นอกใจ โกหก ปั่นหัว และหวังให้ชื่อเสียงปกป้อง

“ผมขอโทษทุกคนด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ที่ผมพูดบนเวทีในวันที่ 15 มกราคม ไม่ครบทุกประเด็น ทำให้เกิดความเสียหายออกไปในวงกว้าง” คือข้อความที่แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข แถลงขอโทษผ่านเฟซบุ๊กเมื่อเช้าวันนี้ (20 ม.ค. 68) เนื้อความระบุถึงเหตุการณ์การคุกคามและข่มขู่ที่เริ่มเป็นประเด็นในโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 15 มกราคม หลังแสตมป์กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เขาและนิว ผู้เป็นภรรยาถูกข่มขู่คุกคามเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จนทำให้ตนต้องหายหน้าไปจากการรับงานแสดงดนตรีและวงการบันเทิง และในที่สุดจำเป็นต้องเปิดหน้าสู้เพราะต้องปกป้องภรรยาที่ถูกตามรังควานและถูกกล่าวหาว่าเป็นประสาท” มีการถูกคุกคามด้วยการโพสต์ข้อความด่าทอ สร้างความเสียหาย การติดตามข่มขู่ถึงบ้าน ตามติดถึงที่นั่งบนไฟลต์บิน แสตมป์ยังระบุว่าผู้คุกคามพยายามเข้าถึงตัวเขาและภรรยาโดยใช้บัตรผ่านของทีมงานจากวงดนตรีวงหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการใช้ผู้มีอิทธิพลที่อ้างว่ามียศนายพลขู่ถึงการ ‘ยัดคดี ม.112’ ให้กับแสตมป์และครอบครัว การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้เรียกความสนใจจากสังคมเพราะนอกจากเหตุการณ์ตามคำบอกเล่าจะเป็นการคุกคามแล้วยังมีการใช้อำนาจและกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมด้วย

ต่อมาศิลปินกลุ่ม Tilly Birds ออกแถลงการณ์ว่าเป็นศิลปินที่ถูกกล่าวถึง และได้รับทราบข้อมูลที่ไม่ตรงกันจากฝั่งแสตมป์และฝ่ายผู้ถูกระบุว่าเป็นคนคุกคาม คือแฟนสาวของทีมงาน เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับคือการฟ้องร้องในคดีชู้สาว จึงขอวางตัวเป็นกลางในเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องส่วนตัวนี้ ประเด็นนี้ยิ่งเป็นที่พูดถึงมากขึ้นเมื่อฝ่ายเพื่อนของแสตมป์เปิดหลักฐานชี้ว่าแสตมป์และหญิงสาวที่คุกคามเขาเคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวจริง ในแชทที่ถูกเปิดเผย แสตมป์กล่าวว่าถูกควบคุมจากภรรยา ถูกยึดโทรศัพท์ ไม่ให้เข้าถึงโซเชียลมีเดีย และไม่มีเวลาส่วนตัว “นิวคุมผมแบบ ไม่มีที่ว่างให้กระซิบเลยครับ” พร้อมทั้งฝากส่งความคิดถึงที่เขามีให้หญิงที่ถูกใช้ชื่อแทนว่า ‘ผัก’ ผู้ที่ต่อมาถูกระบุเป็นฝ่ายทำการคุกคาม มีการเผยข้อมูลการฟ้องร้องคดีชู้สาวที่นิวผู้เป็นภรรยาฟ้องชู้หญิงสาวคนดังกล่าว กระแสสังคมตีกลับว่า ‘ผู้คุกคาม’ แท้จริงแล้วคือ ‘อดีตชู้’ ที่แสตมป์ไม่ได้ระบุมาก่อน จนเกิดเป็นประเด็นที่สังคมถกเถียงอีกครั้งถึง ‘ความเข้าใจได้’ ของการคุกคามอันเกิดจากความสัมพันธ์ฉันชู้สาว และมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่แสตมป์เป็นผู้ทำให้ภรรยาถูกรังควานและถูกกล่าวหาว่า ‘ประสาท’ จากทั้งข้อมูลที่เขาเปิดเผย และข้อมูลที่ปกปิดไว้

ทันทีที่มีหลักฐานถึงความสัมพันธ์ระหว่างแสตมป์และหญิงสาว แสตมป์ถูกกระแสตีกลับถึงความพยายามบิดเบือนข้อมูลต่อสาธารณะชน ข้อความที่เขาส่งหาเพื่อนเพื่อพูดถึงการถูกควบคุมโดยภรรยาถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นความจริงหรือคือการพยายามบิดเบือนเพื่อหาเหตุอันชอบธรรมให้กับความสัมพันธ์ของเขาและ ‘ผัก’ คอมเมนต์ในช่องทางของฝ่ายเพื่อนแสตมป์เป็นไปในทางตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และความสัมพันธ์ของ ‘ลูกผู้ชาย’ เช่น “เพื่อนแน่นะ” “ทำไมแฉเพื่อนงี้ละจารย์” “เกมส์เพราะเพื่อนหักหลัง”  อย่างไรก็ตามความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียที่มีต่อ ‘หญิงผู้คุกคามครอบครัว หรือ อดีตชู้รัก’ ยังไม่เปลี่ยนไปนัก เนื่องจากมีการมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างแสตมป์และนิวผู้เป็นภรรยาเป็นเรื่องส่วนตัว

ล่าสุด แสตมป์ อภิวัชร์ได้ขอโทษสาธารณชน และเข้าร่วมร่ายการโหนกระแสเพื่อแถลงข้อเท็จจริงหลังจากเกิดข้อถกเถียงในประเด็นนี้มาตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

#แสตมป์อภิวัชร์ #แสตมป์ #SLAPP #112

อ้างอิง

Amarintv: https://bit.ly/4anYIYy

Stamp: https://bit.ly/4g45pjK

โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้: https://bit.ly/3PEcdd4

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl