Spectrum

ตุ๊ดผมบ๊อบ ทอมซอยสั้นต้องหมดไป คืนความหลากหลายสู่ทรงผม: ศาลปกครองสั่งยกเลิกกฎกระทรวงฯ 5 ปี สู่ชัยชนะแห่งการปลดแอกทรงผม

3 นาที

3

Share to

มีนาคม 5, 2025

3 นาที

3

มีนาคม 5, 2025

Share to

การแต่งกาย และความประพฤติดังต่อไปนี้ ถือว่าไม่เหมาะสมแก่สภาพของนักเรียน: นักเรียนชายดัดผมหรือไว้ผมยาวจนด้านข้าง

และด้านหลังยาวเลยตีนผมหรือไว้หนวดไว้เครา นักเรียนหญิงดัดผมหรือไว้ผมยาวเลยต้นคอ หากทาง โรงเรียนหรือสถานศึกษาใดอนุญาตให้ไว้ผมยาวเกินกว่านั้น ก็ไม่รวบให้เรียบร้อย นักเรียนใช้เครื่องสำอางหรือสิ่งปลอมเพื่อการเสริมสวย

เหล่านี้คือ 3 ข้อกำหนดที่ถูกระบุไว้ใน ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ลงวันที่ 1 มกราคม 2518 ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ถูกศาลปกครองพิพากษาเพิกถอน โดยระบุว่าเป็นกฎที่มีผลเป็นการจำกัดเสรีภาพในร่างกายของนักเรียนและขัดต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นับเป็นผลลัพธ์และชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากเสียงเรียกร้องที่ดังก้องมายาวนานกว่า 5 ปี ของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทที่ได้ยื่นคำฟ้องไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2563 หลังพากันสวมชุดนักเรียนนักศึกษานำ 23 รายชื่อจำเลยผู้มีโจทก์เดียวกันคือกระทรวงศึกษาธิการและรมว.เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และแม้ว่า 2 ปีที่แล้ว ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในราชกิจจานุเบกษาว่าด้วยการยกเลิกกฎดังกล่าว แต่กลับกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนไว้อย่างไม่รัดกุม ทำให้แต่ละสถานศึกษาสามารถใช้ดุลพินิจในการออกระเบียบทรงผมทอดแทรกในข้อกำหนดย่อยตามเดิม จนเกิดเป็นมหากาพย์ข่าวครูบังคับเด็กตัดผม ครูเล็มผมนักเรียนแอบถ่าย และนักเรียนมัธยมตัดสินใจจบชีวิตเพราะเครียดสะสมจากกฎทรงผมที่สั้นเกินควร โดยทั้งหมดที่ว่ามาเกิดขึ้นในทุก ๆ เดือนตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จากบรรดารายงานข่าวมากกว่าร้อยพาดหัวบนโซเชียลมีเดีย

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ศาลปกครองยกมาเป็นเหตุผลประกอบคำพิพากษาคือการที่กฎกระทรวงนั้น “มิได้คำนึงถึงการพัฒนาของบุคลิกภาพและความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศ” ที่ตอกย้ำว่ากฎนี้รับรองการมีอยู่ของอัตลักษณ์เพียงแค่สองขั้ว—ชายหรือหญิง—การเพิกถอนนี้จึงนำมาซึ่งการแก้ไขคำนิยามของคำว่า ‘เส้นผม’ ให้ถูกนับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญและอวัยวะหนึ่งบนร่างกายเยาวชนที่ไม่ควรถูกล่วงละเมิด เพราะนักเรียนมัธยมมากมายเลือกใช้ทรงผมเป็นหนึ่งในเครื่องมือต่อต้านหรือท้าทายบรรทัดฐานทางเพศ ที่คอยตีกรอบและลดทอนคุณค่าในตัวเองให้คงเหลือแค่เพียงนักเรียนชาย/นักเรียนหญิงคนหนึ่ง ตลอดมาเรามีต่างก็น่าจะมีเพื่อนร่วมสถาบันที่เป็นเยาวชนหญิงข้ามเพศผู้พยายามไว้ผมบ๊อบ และเยาวชนชายข้ามเพศที่ชอบซอยผมสั้น ซึ่งแม้มันจะขัดต่อระเบียบแต่ก็เป็นหนทางสู่การแสดงออกถึงตัวตนของพวกเขาและเธอเองทั้งนั้น เส้นผม/ทรงผมจึงไม่ใช่แค่เพียงส่วนหนึ่งของร่างกายทางกายภาพแต่รวมถึงร่างกายทางสังคม (Social Body) ตลอดจนร่างกายทางการเมือง (Political Body) ด้วยเช่นกัน และแล้ววันนี้มันกำลังจะได้รับสิทธิโดยชอบธรรมที่ถูกกฎหมายลิดรอนไปนาน 50 ปี ในที่สุด

คำพิพากษาของศาลมีผลบังคับให้โรงเรียนทั่วประเทศต้องทบทวนและปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียน โดยไม่สามารถบังคับใช้กฎเดิมได้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการจำเป็นต้องออกแนวปฏิบัติใหม่ที่คำนึงถึงสิทธิของนักเรียนมากขึ้น นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเพื่อสิทธิของนักเรียน และอาจนำไปสู่การปฏิรูประเบียบวินัยในสถานศึกษาในประเด็นอื่น ๆ ที่ยังเป็นปัญหา เช่น เครื่องแต่งกาย และกฎเกณฑ์อื่น ๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิ

Content by kulkul

Graphic by Frogman

อ้างอิง

the active: https://bit.ly/3QLaSle

ศาลปกครอง: https://bit.ly/4kjW3DP

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ: https://bit.ly/43mP7Qg

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl