Trigger Warning: ฆาตกรรม, ความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ (GBV), การเกลียดตัวคนข้ามเพศ (Transphobia)
ผู้หญิงข้ามเพศถูกฆ่าที่พัทยา เหตุเกิดในหอพักแห่งหนึ่ง ผู้เฝ้าหอพักดังกล่าวให้การว่าได้ยินเสียงการต่อสู้ของผู้หญิงข้ามเพศและชาวจีนกว่า 1 ชั่วโมง ภายหลังเมื่อเสียงเงียบลงจึงแจ้งเจ้าของหอให้แจ้งตำรวจและเปิดประตูห้องเข้าไป ตำรวจเข้าพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีศพผู้หญิงข้ามเพศอยู่ในห้อง สภาพศพถูกกรีดและปอดหายไป ต่อมาตำรวจตามจับฆาตกรได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะกำลังจะเดินทางไปคุนหมิง ประเทศจีน บนใบหน้าของฆาตกรมีร่องรอยการต่อสู้
“ตกลงราคากันแล้วที่ 8,000 บาท”
ฆาตกรให้การกับตำรวจภายหลังถูกจับกุม สื่อหลายช่องรายงานข้อมูลนี้ แต่ไม่มีใครพูดต่อว่ามันคือราคาของอะไร ฆาตกรได้อ้างอีกว่าแรงจูงใจในการฆ่าคือผู้ตายปฏิเสธมีเพศสัมพันธ์ และโกรธที่ทราบในภายหลังว่าผู้ตายเป็นผู้หญิงข้ามเพศ
ภาพในที่เกิดเหตุ ภาพศพ ภาพผู้เสียชีวิต ข้อมูลการข้ามเพศของผู้ตาย ถูกเผยแพร่ทั่วโซเชียลมีเดียเมื่อวานนี้ คนจำนวนมากมองเห็นผู้ตายในฐานะเหยื่อที่น่าสงสาร เห็นสภาพศพที่น่าสลดใจ ความโหดร้ายของฆาตกรเป็นเรื่องสำคัญในข่าว และเรื่องรองลงมาคือการฆาตกรรมในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอวัยวะหรือไม่
แต่การมองเห็นนี้ช่างขัดแย้งกับชีวิตของผู้หญิงข้ามเพศที่พัทยาที่เคยถูกมองข้ามและอยู่ในความเสี่ยงตลอดมา
#ไม่ใช่แค่ความโหดร้าย – แต่ต้องเห็นว่ามันคือความรุนแรงต่อพนักงานบริการและการเกลียดกลัวคนข้ามเพศ (Transphobia)
พัทยาคือบ้านของผู้หญิงข้ามเพศ คือเมืองแห่งโอกาส คือที่ทำมาหากิน เงินเก็บก้อนแรกของผู้หญิงข้ามเพศหลายคนเริ่มที่นี่ ฝันของผู้หญิงข้ามเพศหลายคนสำเร็จในเมืองนี้ แต่อาชีพในเมืองพัทยาไม่ได้มีให้เลือกมากนัก
ความจนและการเลือกปฏิบัติทางอาชีพทำให้ผู้หญิงข้ามเพศชนชั้นแรงงานไม่ได้มีทางเลือกมากนัก การเข้าไปสู่อาชีพพนักงานบริการจึงเป็นทางเลือกแรก ๆ และอันตรายเป็นอันดับแรก ๆ ด้วยเพราะกฏหมายไทยยังปากว่าตาขยิบ จนถึงวันนี้ การค้าประเวณียังมีความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 จากสถิติของมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) มีผู้ถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับโดยตำรวจ อย่างน้อย 30 คนในช่วง 1 สัปดาห์ และที่ถูกคุมขังบนโรงพัก 6 คนด้วยเนื่องจากไม่มีเงินชำระเป็นค่าปรับ แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับเป็นพินัยโดยไม่ให้ตำรวจมีอำนาจสั่งปรับแล้ว ต้องส่งต่อเจ้าหน้าที่พม. เท่านั้น แต่ยังมีการบันทึกประวัติอาชญากรรม ทำให้แม้จะเลิกประกอบอาชีพ Sex Worker แล้วก็ยังเสี่ยงหางานทำยาก ข้อจำกัดของกฏหมายทำให้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ Sex Worker มักไม่เป็นคดีความ และเป็นช่องทางให้การล่วงละเมิดและความรุนแรงต่อพนักงานบริการเกิดขึ้นได้ง่ายด้วย ท่ามกลางคำให้การว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่แจ้งตำรวจ อาจกล่าวได้ว่ากฏหมายที่เอาผิดผู้ให้บริการและสถานที่ให้บริการทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าให้ความช่วยเหลือด้วย
ความเปราะบางซ้ำซ้อนยิ่งรุนแรงเมื่อผู้ตายเป็นผู้หญิงข้ามเพศ คำให้การของฆาตกรที่บอกว่ากรีดเล่นแกล้งศพ และจงใจนำซิลิโคนเต้านมออกมาวางไว้ข้างศพนั้นสอดคล้องกับความโกรธภายหลังทราบว่าผู้ตายไม่ใช่เพศหญิงโดยกำเนิด พฤติกรรมนี้เข้าข่ายการเกลียดกลัวคนข้ามเพศ (Transphobia) ที่มีอยู่จริงในดินแดนที่อ้างตัวว่าเป็นสวรรค์ของ LGBTQ+ เราไม่มีกฏหมายรองรับความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ และกลไกการเรียกร้องความเป็นธรรมทางเพศผ่านคณะกรรมการวลพ. ก็อ่อนแอเกินไปจนใช้การไม่ได้จริง ต่อให้การเกลียดกลัวคนข้ามเพศแม้จะมีหลักฐานชัดอย่างกรณีนี้ กฏหมายไทยก็ไม่สามารถเอาผิดได้ และคดีนี้อาจจบด้วยคดีฆาตกรรมธรรมดาในที่สุด
ไม่ใช่แค่การเรียกเพศของผู้ตายด้วยคำว่า LGBTQIA+ ที่เป็นการให้ความเคารพและเห็นถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่การหาสาเหตุที่แท้จริงและการมองคดีนี้ผ่านมุมมองทางเพศต่างหากที่จะคืนความยุติธรรมให้ผู้ตาย และยุติความรุนแรงต่อชุมชนคนข้ามเพศในประเทศไทยได้จริง
#Transphobia #Pattaya #GenderBasedViolence #SexWorkiswork
Content by Ms. Satisfaction
อ้างอิง
The Active: https://bit.ly/3YjXYyO
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
