คลื่นความเศร้าระลอกใหม่นี้นำโดยมิวสิควิดีโอ The Subway เพลงใหม่ของ Chappell Roan ที่เธอลากผมที่แดงยาว 2 เมตรครึ่งตามหาสาวผมเขียวไปทั่วมหานครนิวยอร์ก นอกจากจะโดนแซวเรื่องผมเผ้าที่รุงรังเหมือนผีสาวร้างรัก สิ่งที่แชพเพลได้พากลับมาสู่เควียร์คอมมูนิตี้คือคลื่นความเศร้า (Melanchony) ที่แสนงดงาม แต่ไม่ได้หมายความว่าแชพเพลเป็นผู้สร้างสิ่งนั้น เพราะการหลงใหลในความเศร้าเป็นสุนทรียะของชุมชน LGBTQIAN+ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
#MelancholyGay – เกิดเป็นเรามันเศร้าทำไม
ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กันนี้ ชุมชนแซฟฟิคในทวิตเตอร์ต่างพูดถึงประสบการณ์กับคนคุยที่พูดกันมาพูดกันไปก็ใช้ภาษาเบียว ๆ จนคล้ายนิยายแนวกระแสสำนึก (Stream of Conciousness) สิ่งนี้เป็นประสบการณ์ร่วมที่หลายคนแคปมาแชร์แล้วขำ แล้วพากันวิเคราะห์ไปถึงต้นตอที่อยู่ในภาษานิยาย รีดอะไรท์ จอยลดา ว่าต้นตอของความเบียวทางภาษาคือวรรณกรรมเยาวชนทำมือพวกนี้นั่นแหละ เลยเถิดไปถึงนักเขียนคนโปรดที่เขียนแนวกระแสสำนึกจริง ๆ อย่างเช่นเวอร์จิเนีย วูล์ฟ หรือฟากนักเขียนไทยคนดังอย่างลาดิด (ladys) เช่นเดียวกับฝั่งชุมชน Soft Gay ผู้มีเพลย์ลิสต์อินดี้เป็นเพื่อนคู่ใจ รักภาพยนตร์ Call me by your name, รักทรอย ซีวาน, รักลานา เดล เรย์, รักหนังคานส์ และรักบรรยากาศกึ่งเศร้ากึ่งชวนฝันในหนังที่ฉายแลนด์สเคปเมืองในยุโรป แม้จะดูสนใจต่างไปคนละทาง แต่สิ่งที่ชุมชนมีร่วมกันคือการตกหลุมรักความเศร้า ใคร่ครวญหวนไห้ เดินทางในความทรงจำและความคิดของตัวเองอย่างซึมเซามากกว่าจะเป็นการมีชีวิตบนความเป็นไปของโลกแบบที่วรรณกรรมแนวสัจนิยม (Realism) เขาเป็นกัน
Judith Butler เคยอภิปรายงานเขียนที่พูดถึงภาวะคร่ำครวญ (Mourning) และความเศร้า (Melanchony) เอาไว้ว่ามันสัมพันธ์กับเพศวิถี (Sexuality) ของบุคคล ความเศร้าสัมพันธ์กับสถานะของชุมชนเควียร์ในสังคมโลกที่เลือนลางเจือจาง จะมีอยู่ก็ไม่มี จะหายไปก็ไม่หาย ย้อนกลับมามองประสบการณ์ร่วมของชุมชนเควียร์ที่ปรากฏใน The Subway สถานการณ์ของการคร่ำครวญและความสัมพันธ์ที่ขาดความชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ของความสัมพันธ์แบบเควียร์เสมอ มันหลบ ๆ ซ่อน ๆ ท็อกซิกและแสนหวาน ไม่มีกฏหรือแม้แต่ข้อตกลง ไม่มีการผูกมัด (Commitment) และท้ายที่สุดก็จบลงไปอย่างงง ๆ ทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้อยู่ในความสับสนและ What if ที่ไม่มีวันเป็นจริง สิ่งนี้สะท้อนอยู่ในยุคหนึ่งของภาพยนตร์เลสเบี้ยนจากโลกตะวันตกด้วยที่มักจะใช้ธีมพีเรียดเพื่อย้อนถึงช่วงเวลาที่การรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องต้องห้าม แล้วเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครที่ต้องเก็บซ่อน อยู่ภายใน ห้ามความรู้สึก ไม่แสดงออกตรง ๆ การผลิตซ้ำสิ่งเหล่านี้เป็นทั้งคำประกาศและแนวให้ชุมชนเควียร์ว่าการเป็นพวกเรามันเศร้าโคตร!
เพราะฉะนั้น อย่าได้สงสัยหากคุณเข้า IG หรือ TikTok แล้วจะเจอคู่ชิป ตัวละครเควียร์ หรือแม้แต่ตัวละครที่ไม่เคยบอกว่าตัวเองเควียร์ถูกตัดมาเป็นซีนเศร้า ๆ เหงา ๆ เหมือนคนโดนทิ้ง ประกอบเพลง The Subway ที่แสนทุกข์ทรมาน เพราะมันกำลังกู่ร้องบอกประสบการณ์ของชุมชนอยู่ว่า “กูเศร้า ช่วยเข้าใจด้วย!”
#Aestheticsofmelancholy #TheSubway #ChappellRoan
Content by Ms. Satisfaction
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”