อัญชัญ ปรีเลิศ ได้รับอิสรภาพ

หลังถูกคุมขังนานกว่า 8 ปีในคดี 112 ที่ถูกตัดสินจำคุกรวม 29 ปี 174 เดือน

วันนี้ (27 สิงหาคม 2568) อัญชัญ ปรีเลิศ ได้รับการปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางฯ หลังถูกคุมขังนานกว่า 8 ปี 4 เดือน 19 วัน จากการถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้อัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียงของ ‘บรรพต’ ดีเจผู้จัดรายการวิทยุใต้ดิน ซึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทกษัตริย์ โดยถูกตัดสินรวมทั้งหมด 29 กระทง

อัญชัน ปรีเลิศ ถูกคุมขังใน 2 ช่วงเวลา ในช่วงแรกเป็นการคุมขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดี ที่ยาวนานถึง 3 ปี 9 เดือน โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว จนกระทั่งวันที่ 2 พ.ย. 2561 ศาลทหารกรุงเทพฯ อนุญาตให้ประกันตัว โดยญาติได้นำหลักทรัพย์มาวางเป็นมูลค่า 500,000 บาท ต่อมาเมื่อมีการประกาศยกเลิกคำสั่ง คสช. บางฉบับในเดือนกรกฎาคม 2562 จึงมีคำสั่งให้โอนย้ายคดีไปที่ศาลยุติธรรม และในปี 2563 อัญชันกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ และศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกอัญชัญกระทงละ 3 ปี รวมเป็นจำคุก 87 ปี แต่เนื่องจากรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือกระทงละ 1 ปี 6 เดือน เหลือโทษจำคุกรวม 29 ปี 174 เดือน 

ระหว่างถูกคุมขัง อัญชัญได้เขียนจดหมายหลายฉบับ เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวัน ในขณะที่ประชาชนก็เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผ่าน #FreeAnchan และมีการเขียนจดหมายแลกเปลี่ยนและพูดคุยกับอัญชัน จดหมายหลายฉบับเผยว่าอัญชันมีความหวังเสมอ และคาดหวังว่าจะได้รับการอภัยโทษ เนื่องจากชีวิตในเรือนจำลำบากและข้าวของแพง จนกระทั่งในวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการประกาศ พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ พ.ศ. 2568  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ส่งผลให้ผู้ต้องขังทางการเมืองบางส่วนที่คดีสิ้นสุดแล้วจำนวนหนึ่ง เข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยในวันนี้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองจำนวน 6 คน ได้แก่ อัญชัญ ปรีเลิศ, สมบัติ ทองย้อย, สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ, ธนายุทธ ณ อยุธยา, ธนพร และ ทีปกร อย่างไรก็ตาม ยังคงมี ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองในข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนอยู่ที่จำนวนอย่างน้อย 47 คน โดยเป็นคดีมาตรา 112 จำนวน 28 คน

#112 #FreeAnchan

Content by Kantamas P.

Graphic by Kasidit Taranabhaiboon

อ้างอิง

มติชน: https://bit.ly/3UOheCj

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน: https://bit.ly/3HTdHQg

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”