Spectrum

อาจารย์ชาวจีนล่อลวงนักศึกษา แต่กลับได้รับโทษเพียงไล่ออกและยึดใบประกอบฯ ตอกย้ำปัญหาชายเป็นใหญ่ในสังคมจีน

3 นาที

11

Share to

เมษายน 28, 2025

3 นาที

11

เมษายน 28, 2025

Share to

อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังในมณฑลซานตง วิทยาลัยตงชาง มหาวิทยาลัยเหลียวเฉิง ทางตะวันออกของประเทศจีนถูกเปิดโปงว่าเขาล่อลวงเพื่อ ‘คบหา’ กับนักศึกษามากกว่า 10 คน โดยปลอมแปลงชื่อ อายุ อาชีพ และประวัติครอบครัวทั้งหมด มีการบังคับให้ผู้หญิงให้ทำแท้ง หลังข่าวนี้กลายเป็นประเด็นในโลกโซเชียล มหาวิทยาลัยจึงได้เริ่มการสอบสวนหลังจากได้รับการแจ้งเบาะแสมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับอาจารย์คนนี้ 

ชื่อของชายคนนี้ถูกระบุว่า ‘อาจารย์หวู่’ และข้อมูลเผยว่าเขาล่อลวงนักศึกษามายาวนานกว่า 8 ปี เขาปกปิดตัวตน หลอกนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่น ทำซ้ำจนมีผู้เสียหายกว่า 10 คน และเรื่องแดงเมื่อเขาได้บังคับให้ผู้หญิงคนหนึ่งในสิบกว่าคนทำแท้ง ข่มขู่ด้วยว่าถ้าไม่ยอมจะฆ่าตัวตาย และขู่ให้เหยื่อปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ทันทีที่เรื่องถูกเปิดเผยจนเป็นข่าว มีเสียงวิจารณ์จากหลายด้าน สังคมให้ความสนใจ แต่มหาวิทยาลัยตัดสินลงโทษเพียงไล่ออกจากการเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัย เพิกถอนใบรับรองการสอน และเขาถูกไล่ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ โดยไม่ได้โดนดำเนินคดีใด ๆ หรือแสดงความรับผิดชอบต่อผู้หญิงทั้ง 10 ราย

#การกล่าวโทษเหยื่อกลายเป็นความคิดเห็นกระแสหลัก

“ฉันไม่เห็นว่าเขาทำอะไรผิด เขาก็ไม่ได้ใช้ตำแหน่งครูเพื่อไปจีบนักเรียนหญิงนี่”

ท่ามกลางความเห็นจำนวนมากที่มีต่อความรุนแรงนี้ ความเห็นส่วนมากกลับเป็นการกล่าวโทษเหยื่อ บางความเห็นกล่าวว่าเท่านี้ก็ถือเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ พวกเขาระบุว่าเพราะอาจารย์คนนี้โสด มีเหตุผลอะไรที่จะต้องห้าม เรื่องที่ทำก็ถือว่าผิดกฎหมาย แต่ก็มีอีกฝ่ายหนึ่งที่ได้ประนามว่าในฐานะคนที่เป็นครู เขาไม่ควรใช้อำนาจไม่ทางไม่ชอบ และยังมีการจงใจล่อลวงด้วยการปกปิดและบิดเบือนข้อมูลด้วย นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์ที่แสดงความเห็นถึงสังคมโดยรวมว่า บ่อยครั้งที่เกิดเหตุการณ์ล่อลวง ล่วงละเมิด ที่ฝ่ายหญิงโดนทำร้ายจากคนรัก ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ผู้หญิงกลับโดนสังคมมองว่าเป็นเรื่องของคนรักกัน ฝ่ายหญิงก็เลือกและสมยอมเอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วต่อให้เป็นคนรักกันในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้สมยอมถือเป็นการกระทำที่บังคับฝืนใจทั้งสิ้น 

#สังคมชายเป็นใหญ่รากที่ฝังลึกในจีน

ผู้หญิงจีนกำลังเผชิญกับความรุนแรงรอบด้าน ผลสำรวจในปี 2023 พบว่า 27.91% ของผู้หญิงเคยถูกกระทำความรุนแรงทางร่างกาย อีก 62.38% ถูกทำร้ายด้านจิตใจ และอีก 30.10% เคยประสบกับความรุนแรงทางเพศ ด้านกฎหมายก็ไม่เอื้อต่อความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรี ข้อมูลรายงานว่าภรรยาที่ทำเรื่องฟ้องหย่าต่อสามีที่ใช้ความรุนแรงหลายคนมีประสบการณ์ถูกศาล ‘ปัดตก’ ไม่รับพิจารณา ส่งผลให้เฟมินิสต์ในจีนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเรียกร้องสิทธิเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ และขบวนการเฟมินิสต์มีแน้วโน้มโตบโตต่อในช่วงที่ขบวนการ #Metoo ได้รับความสนใจ แต่ยังคงต้องเผชิญกับการปราบปรามของรัฐที่เพิ่มมากขึ้น การเซ็นเซอร์ การเฝ้าติดตาม การกักขังโดยพลการ การคุกคาม และการกล่าวหาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง การเคลื่อนไหวต่าง ๆ มักตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ปฏิเสธที่จะให้พื้นที่แก่การเรียกร้องสิทธิ

แต่ถึงอย่างนั้นการเรียกร้องสิทธิยังคงดำเนินต่อไป ผู้หญิงในจีนหลายคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการหาความปลอดภัยและหาการสนับสนุนเมื่อต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว มีการก่อตั้งกลุ่มสนับสนุนในพื้นที่และสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกออนไลน์ที่นอกเหนือการตรวจสอบของรัฐ

#FeminismInChina #PowerAbuse #PatriarchyInChina

Content by Pitchaya S.

Graphic by Chayanit K.

อ้างอิง

frontiersin: https://bit.ly/4cRnNML

marketeeronline: https://bit.ly/4cRnNML

South China Morning: https://bit.ly/449xR1j

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl