Spectrum

อาชญากรรมในนามของความรักชาติ – ความเกลียดชัง ยุยง ปลุกปั่น จากสื่อไทย กับชีวิตที่ไม่มีใครรับผิดชอบได้

3 นาที

19

Share to

กรกฎาคม 25, 2025

3 นาที

19

กรกฎาคม 25, 2025

Share to

สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังมีการใช้อาวุธสงครามในเช้าวันที่ 24 กรกฏาคม มีรายงานว่าฝั่งไทยมีผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บสาหัส 13 คน และมีการปะทะอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี และพื้นที่อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานยืนยันผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มเติม แต่ประชาชนในพื้นที่ได้อพยพเข้าที่หลบภัยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน และยังคงทยอยเดินทางออกจากพื้นที่

#บิดเบือนและบดบัง – จรรยาบรรณสื่อที่ผุพังในการสร้างกระแสเกลียดชังระหว่างวัฒนธรรมกัมพูชาและไทย

ความรุนแรงระหว่างไทยและกัมพูชาในครั้งนี้เกิดจากปัญหาขัดแย้งที่ฝังรากลึกมายาวนาน ร่องรอยความขัดแย้งนี้ปรากฎชัดในสื่อและโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมาภาพการเปรียบเทียบและแย่งชิงวัฒนธรรมระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจเสมอในสื่อประเด็นใหญ่อย่างปราสาทและพื้นที่ชายแดนอย่าง ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) ถูกนำมาพูดบ่อยครั้งในท่าทีที่เชื่อมั่นว่า ‘คนกัมพูชาทุกคนอยากยึดพื้นที่ของไทย’ ‘อยากเป็นเหมือนคนไทย’ และ ‘อยากเคลมวัฒนธรรมไทย’ โดยไม่ได้มุ่งไปที่การรายงานข้อเท็จจริง หรือเล่าถึงความละเอียดอ่อนของการปกครองในกัมพูชา ภาวะเผด็จการและการสร้าง Propoganda การรักชาติจากสื่อของกัมพูชา สื่อไทยมีท่าทีในการเล่าข่าว สร้างคอนเทนต์ และการตอบโต้ของสื่อต่อปรากฎการความเกลียดชังระหว่างคนไทยและคนกัมพูชาที่ชัดเจน มีการทำภาพเปรียบเทียบชุดประจำชาติ เพลง อาหาร ที่ไทยและกัมพูชามีวัฒนธรรมร่วมกันเนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เคียง รากวัฒนธรรมที่มีร่วมกันก่อนการแบ่งเขตแดนเป็นคำตอบถึงความคล้ายคลึงในวัฒนธรรม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจหยุดความนิยมของคอนเทนต์ปลุกปั่นความเกลียดชังที่เรียกกัมพูชาว่าเป็นประเทศแห่งการเคลม ถึงขั้นมีการสร้างเพจโจมตี หลายครั้งความรุนแรงในคอมเมนต์สะท้อนความรุนแรงจากการเลือกปฏิบัติและเหยียดเชื้อชาติ ขู่จะไปไล่คนงานชาวกัมพูชาบ้าง ประกาศไม่ขายของและไม่ว่าจ้างคนกัมพูชาบ้าง บางครั้งคอมเมนต์ขู่ถึงการทำร้ายร่างกาย คงมีคนเชื่อว่าเหล่านั้นเป็นเพียงการคึกคะนองจากคนเก่งหลังคีย์บอร์ด– แต่วันนี้ความรุนแรงนั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้ว ในวันที่มีการปล่อยคลิปตบหน้าแรงงานกัมพูชา เพราะว่ามีความรุนแรงทางการทหารเกิดขึ้นที่ชายแดน

ท่าทีแสดงความเกลียดชังที่พบเห็นในสื่อและบุคคลสาธารณะในไทยยิ่งชัดเจน รุนแรง และน่าอันตรายหลังมีการปะทะ มีการโพสต์ภาพอาสุธสงครามพร้อมลายเซ็นต์คนดังว่าฝากให้นายฮุน เซน สื่อเจ้าใหญ่จัดรายการถามว่า “ทำไมไทยไม่ทำอะไรเสียที” เพจเล็กเพจน้อย อินฟลูเอนเซอร์ต่างโพสต์ข้อความยุยงปลุกปั่นเรียกร้องความรุนแรง เร่งให้ต่อสู่และบางคนถึงขั้นประกาศว่าเราต้องการสงคราม

แต่สงครามเกิดขึ้นแล้ววันนี้ และเกิดขึ้นมานานแล้วเมื่อชาวไทยตั้งคำถามว่าทำไมเด็กทารกกัมพูชาถึงเข้ามาใช้ห้องฉกเฉินทารกในไทยได้ มีการตั้งคำถามว่าทำไมคนป่วยที่เป็นคนกัมพูชาถึงได้รับการรักษาในไทย ทำไมเด็กกัมพูชาถึงได้เรียนหนังสือ สงครามเริ่มขึ้นมานานแล้วระหว่าง ‘ความรักชาติ’ และมนุษยธรรม และในวันนี้คนที่สูญเสียคือประชาชนไทย และประชาชนคนกัมพูชา

#คนยุยงนอนห้องแอร์คนที่แพ้คือคนชายแดน – เสียงจากประชาชนในพื้นที่ขอร้องผ่านสื่อและโซเชียลส่วนตัวว่าไม่อยากให้เกิดการปะทะ และเท่าที่ผ่านมามีแต่คนในท้องที่ที่ต้องอยู่กับความเสียหาย

วิดีโอที่นักเรียนซ้อมวิ่งหลบภัยทั้งน้ำตา คนใช้วีลแชร์หอบข้าวของซ้อมอพยพ และยายร่ำไห้หลังหลานบาดเจ็บจากการโดนระเบิด ถูกเผยแพร่จากสถานที่เกิดเหตุ จากปาก จากเสียง และประสบการณ์จริงของคนในพื้นที่ที่พยายามบอกว่าไม่ต้องการความรุนแรง ในขณะที่ ‘คนเมือง’ และผู้อยู่ห่างไกลสร้างโพสต์ข่มขู่และเกลียดชังคนกัมพูชา เรียกร้องให้ไทยตอบโต้ด้วยกำลังทางทหาร คนจากพื้นที่ชายแดนก็พยายามใช้โซเชียลบอกว่าให้หยุดเสียที

“หลานอยู่อนุบาลต้องมาวิ่งหนีระเบิด ยายแก่จนจะเดินไม่ไหวก็ต้องพากันอุ้มหนี พอใจคนยุหรือยัง”

โพสต์หนึ่งจากคนในพื้นที่แสดงความขับข้องใจต่อท่าทียุยงของคนในโซเชียลมีเดีย พร้อมแชร์ต่อว่าตลอดระยะเวลาความตึงเครียดในพื้นที่ ตนและครอบครัวยังคงต้องออกจากบ้านไปทำงานและทำภารกิจส่วนตัว ในขณะที่กังวลต่อชีวิตและทรัพยน์สินก็ไม่มีทางเลือกมากนักเนื่องจาก “จะนั่งรอให้ประกาศอพยพก็คงไม่รู้จะเอาอะไรกิน” และการย้ายออกจากพื้นที่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ทำได้ ที่นั่นคือบ้าน คือชีวิต การขอร้องและภาวนาให้รัฐบาลของทั้งสองฝั่งเจรจาและยุติความรุนแรงได้

#พวกไทยพวกเหมน – การล่าแม่มดในปี 2025 กระแสที่คนไทยไลฟ์ทำร้ายคนกัมพูชา

หลังความรุนแรงที่ชายแดนประทุ ความรุนแรงในเมืองก็ตามมา เริ่มต้นจากการยุยงปลุกปั่นในโซเชียล สู่การลงถนนกัดทำร้ายร่างกายคนกัมพูชาในชีวิตจริงที่ถ่ายทอดผ่านโซเชียล มีกลุ่มวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ไล่หาคนกัมพูชา กลุ่มที่ดักทำร้ายในย่านมีนบุรี มีการปล่อยคลิปตบหน้าคนกัมพูชา มีการคอมเมนต์อวดอ้างว่าได้ไล่แรงงานกัมพูชาที่ร้านออกจากงานแล้ว ความรุนแรงและการเลือกปฏิบัตินี้ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนหลังมีการใช้อาวุธสงครามแต่เกิดขึ้นเพราะการสะสม บิดเบือน และส่งต่อความเกลียดชังผ่านสื่อมาช้านาน จากการตั้งคำถามถึงสิทธิการรักษาพยายามของคนกัมพูชา สิทธิการเข้าถึงการศึกษาของเยาวชน การไม่อยากรับเข้าทำงาน วันนี้เรื่องที่เคยคิดว่าเป็นเพียงการปากดีของนักเลงคีย์บอร์ดเกิดขึ้นแล้วในชีวิตจริง และชัดเจนว่าเป็นผลลัพธ์จากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นอย่างจงใจ

อ้างอิง

Thaipbs: https://bit.ly/456gZaE

#ไทยกัมพูชา: https://bit.ly/4kXt6wA

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl