Spectrum

เพื่อนพนักงานบริการ: พื้นที่แห่งการเรียนรู้และเยียวยา ที่ผู้หญิง กะเทย ตำรวจ กะหรี่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน

3 นาที

3

Share to

พฤษภาคม 21, 2025

3 นาที

3

พฤษภาคม 21, 2025

Share to

“พอเห็นข่าวก็ไปหาว่าเป็นน้องที่เรารู้จักไหม ปรากฎว่ารู้จัก”

“ไม่กล้าไปกับลูกค้า กลัวว่าจะโดนอะไร”

“ตกใจ ไม่เข้าใจทำไมต้องทำกันขนาดนี้”

“พอเป็นกะเทย ข่าวก็รายงานไม่ปิดหน้า บางคนก็คอมเมนต์ด่า”

เวลาบ่ายโมง ณ ห้องประชุมริมหาดจอมเทียน พัทยา 606 กิโลเมตรจากจังหวัดหนองคาย ที่ซึ่งงานฌาปนกิจของ ‘มีนา’ จัดขึ้น บรรยากาศในห้องประชุมที่พนักงาน จิตแพทย์ และเจ้าหน้าที่จาก SWING มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ รวมตัวกันเพื่อพูดถึงผลกระทบทางจิตใจหลังเหตุการณ์ความรุนแรงหลัง มีนา หรือ โน๊ต พนักงานบริการหญิงข้ามเพศถูกฆาตกรรมที่พัทยา พี่น้องพนักงานบริการเล่าให้ฟังว่าทุกคนในห้องนี้คุ้นหน้าคุ้นตากัน แม้พัทยาจะมีพนักงานบริการหลักหมื่นคน แต่ชุมชนพนักงานที่ทำงานร่วมกับ SWING เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันค่อนข้างบ่อย และมีความคุ้นเคยไว้วางใจกันมากพอจะเปิดใจบอกเล่าความกลัวและผลกระทบที่ข่าวร้ายของมีนาสร้างบาดแผลต่อจิตใจ แม้โดยปกติการพูดเรื่องความรู้สึกไม่ใ่ช่ประเด็นที่แชร์กันบ่อยนัก

“ปกติเจอกันก็ถามเรื่องทำมาหากิน ไม่ได้มานั่งถามจิตใจอะไรแบบที่หมอพาทำวันนี้”

หนึ่งในจุดประสงค์ที่มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการจัดให้เกิดพื้นที่การรวมตัววันนี้การพาพี่น้องพนักงานบริการมาแชร์ความรู้สึก ความกลัว และช่วยหาหนทางจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังรับรู้ข่าวของมีนาที่เสียชีวิตขณะกำลังทำมาหากิน พนักงานบริการที่เราคุยด้วยเล่าให้ฟังว่าชีวิตแต่ละวันเต็มเรียกได้ว่า “กิน ขี้ ปี้ นอน” เป็นกิจวัตรเช่นเดิมทุกวันที่ต้องนอนเช้า ตื่นบ่าย หาอะไรรองท้อง ก่อนจะออกไปทำงานตามหาด บาร์ หรือซอยต่าง ๆ ตามพื้นที่จับจอง และเมื่อเจอหน้าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันก็ไม่ได้มีเวลามาถามไถ่กันมากนักเนื่องจากต้องพุ่งสมาธิไปที่การหาลูกค้า จะมีคุยกันบ้างก็เรื่องสถานที่ที่ควรไป ซอยใครที่ควรระวัง แต่การจะมาพูดเรื่องสภาพจิตใจนั้นดูจะเป็นเรื่องของ ‘คนมีตังค์’ ที่ไกลตัว

“บางคำที่หมอพูด หรือดูจากทีวีอะไรไรงี้ก็ไม่เข้าใจหรอก เราทำมาหากิน มามัวนั่งสำรวจจิตก็พอดี อดแดก”

แต่ข่าวของมีนากระทบจิตใจมากกว่าที่คิด แม้พี่น้องพนักงานบริการจะย้ำกับเราว่าทำงานนี้มีความเสี่ยงอยู่ทุกวัน แต่การได้รับรู้ความโหดร้ายที่คนโดนกระทำเป็นคนเพศเดียวกับเรา ทำงานในพื้นที่เดียวกับเรา ทำอาชีพเดียวกับเราก็สร้างผลกระทบต่อจิตใจและกระทบการทำงาน แม้ทุกวันจะรู้ว่าอันตราย แต่หลังข่าวนี้ความอันตรายที่เคยเป็นเพียงคำนามกว้าง ๆ กลับมีรายละเอียดความรุนแรง มีภาพ มีเสียง และมีความคิดเห็นของผู้คนที่สาดเข้ามาราวกับรู้ว่าแต่ละวันชีวิตของพนักงานบริการเป็นอย่างไร พวกเขาคอมเมนต์ต่อเรื่องนี้ราวกับว่าความรุนแรงนี้เป็น ‘เรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้’ เพราะคนคนหนึ่ง ‘เลือก’ เป็นพนักงานบริการ

“เอางี้ เป็นกะเทยคนก็เมินแล้ว เป็นกะหรี่คนก็เมินอีก มันไม่เคยมีใครฟังเราจริงจัง แต่พอคอมเมนต์ในเฟสดันพูดเหมือนรู้จักกะหรี่ดีมาก รู้ว่าเราต้องเป็นงู้นเป็นงี้”

พี่น้องพนักงานบริการที่เราคุยด้วยแทนตัวเองว่ากะเทยบ้าง กะหรี่บ้าง ตุ๊ดบ้าง และเมื่อเราถามว่า “ให้หนูเขียนคำว่ากะหรี่ได้เลยเหรอพี่” พวกเขาหัวเราะก่อนตอบว่าได้ แล้วเสริมว่ากว่าจะมีวันที่เรียกตัวเองกว่ากะหรี่แบบไม่แฝงไปด้วยการดูถูกตัวเองก็ใช้เวลาเป็นหลายปี กว่าจะรู้ว่างานที่ทำไม่ใช่งานไร้ศักดิ์ศรีดังที่ถูกสังคมตีตรา ไม่ใช่งานที่ทำให้สังคมเสื่อมเสียอย่างที่คนอื่นกล่าวหา ก็ใช้เวลาในการทบทวนและรับฟังจากพี่พนักงานบริการรุ่นก่อน จากเพื่อนพนักงานบริการ และการถูกปฏิบัติด้วยในฐานะ ‘คนปกติ’ ทั่วไปในทุก ๆ ครั้งที่เข้าร่วมงานประชุมหรือรวมตัวที่ได้แลกเปลี่ยนกับนักข่าวบ้าง เจ้าหน้ารัฐบ้าง เพราะในการทำงานที่ใช้การบริการเป็นหลักมักหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ลูกค้าหลงผิดคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าพนักงาน และในสังคมที่มองพนักงานบริการด้วยสายตาเหยียดหยามก็เคยทำให้พี่ ๆ มีช่วงที่ลืมว่าตัวเองมีสิทธิมีเสียงมีศักดิ์ศรีเทียบเท่าคนอื่น ๆ ทุกประการ

“เดี๋ยวนี้ไม่ได้เด้อ รู้หมดนะกฎหมงกฎหมาย จะมาเหยียดมาหลอกด่าไม่ได้”

นอกจากการดูแลกันด้านจิตใจ จุดประสงค์ของการรวมตัวกันในครั้งนี้มีเพื่อบอกเล่าและส่งต่อข่าวสารเรื่องกฎหมายที่ SWING ดำเนินการเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายที่เอาผิดพนักงานบริการ ด้วยความหวังว่าเมื่องานบริการไม่ผิดกฎหมาย พนักงานบริการจะได้รับการปกป้องเช่นเดียวกับคนทำอาชีพอื่น ๆ พนักงานบริการในงานเล่าให้เราฟังขำ ๆ ว่าแต่ก่อนเห็นตำรวจก็พากันวิ่ง เพราะเคยมีช่วงที่พนักงานบริการเคยถูกจับในข้อหา ‘เตร็ดแตร่ยามวิกาล’ และมีการยึดบัตรประชาชนแล้วควบคุมตัวไปสถานีตำรวจเพื่อเก็บค่าปรับ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ เพื่อนพนักงานบริการร่วมกับหน่วยงานท้องที่สร้างความเข้าใจว่าตำรวจไม่มีอำนาจในการจับกุม และการได้ร่วมพูดคุยกับตำรวจในวันนี้ก็ยิ่งตอกย้ำว่าศักดิ์ศรีของพนักงงานบริการเป็นเรื่องจริงจังที่มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการให้ความสำคัญตลอดมา การได้แลกเปลี่ยนความกลัวของพนักงานบริการและบอกความคาดหวังที่มีต่อตำรวจนั้นสร้างพันธะในการทำงานร่วมกันในฐานะพลเมืองพัทยา

“กะหรี่กับตำรวจใครก็ว่าเหมือนแมวกับหนู แต่เรากล้ามาเพราะแม่ ๆ บอกว่าเขามาคุยว่าจะดูแลเรายังไง”

ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพนักงานบริการในพื้นที่และเพื่อนพนักงานบริการคือหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเรื่องกฎหมายที่ปกป้องพนักงานบริการ รวมถึงการทวงคืนศักดิ์ศรีของพนักงานบริการด้วย ทุกครั้งที่จัดการแลกเปลี่ยนพูดคุยระหว่างพนักงานบริการและ ‘คนใหญ่คนโต’ ตามคำเรียกของพี่ ๆ คือการสร้างแรงให้พนักงานเข้าใจว่าเสียงของเขามีคนฟัง และเรื่องที่พูดนั้นสำคัญเช่นเดียวกับประชาชนคนอื่น ๆ วันนี้ ณ ห้องประชุมที่เต็มไปด้วยพนักงานบริการ นักข่าว หมอ และตำรวจ มาอยู่ที่นี่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มากกว่ากฎหมาย แต่ยังส่องแสงถึงการอยู่อย่างมีศักดิ์มีศรีแบบที่หมอเห็นหัว ตำรวจเห็นหน้า และพนักงานทุกคนตระหนักว่าศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์ของเขาไม่ด้อยไปกว่าใครในห้องนี้ และมันเริ่มด้วยการไว้เนื้อเชื่อใจกันและพบปะกันอย่างต่อเนื่องที่ประสานโดยเพื่อนพนักงานบริการมาตลอด ชัดเจนจากคำพูดของพี่น้องในห้องที่เล่าว่ากล้ามาวันนี้ เพราะพี่ตี๋ชวนมา กล้าพูดวันนี้เพราะพี่แอนนาเคยเล่าให้ฟัง

เวิร์กช็อปที่ตั้งใจจะเยียวยาพนักงานบริการในครั้งนี้เลยไม่ได้ทำหน้าที่แค่เยียวยา แต่เปิดโอกาสให้คนที่เคยอยู่ตรงข้ามกันได้รู้ว่ามันมีอะไร คนที่คิดว่าเข้าใจแล้วได้เข้าใจมากขึ้น คนที่เคยไม่เห็นหัวก็ได้เห็น เป็นแบบที่สังคมควรจะเป็น

“เรามีความหวังว่าสิ้นปีนี้จะได้ยกเลิกกฎหมายที่เอาผิดพนักงานบริการ”

คือถ้อยแถลงด้วยความหวังจาก สุรางค์ จันทร์แย้ม ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ เล่าว่า SWING ได้เปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อในพ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 โดยคาดหวังที่ 10,000 รายชื่อ และมีผู้ร่วมลงชื่อ 13,526 คนในจำนวนไม่ถึง 4 เดือน สะท้อนว่าสังคมมองงานบริการเปลี่ยนไป และมีความเข้าใจเรื่องสิทธิเนื้อตัวร่างกาย และสิทธิมนุษยชนมากขึ้น หลังฟังการสรุปและอัปเดตข้อกฎหมายจาก SWING เราถามพนักงานบริการในห้องอีกครั้งว่าตั้งความหวังไว้แค่ไหน และได้คำตอบว่า “ตั้งไว้สูงที่สุด” พนักงานบริการวันนี้มีความหวังว่าวันหน้าจะได้ทำงานโดยมีการปกป้องคุ้มครองในฐานะแรงงาน และหลังจากนั้นความหวังถัดไปคือการถูกมองเห็นในฐานะแรงงานทั่วไปเสียที

“ที่พัทยาไม่ค่อยเท่าไร เราอยู่กันได้ มี SWING มีตำรวจที่รู้จักงานเรา พ่อค้าแม่ค้าในซอยก็รู้จักกัน กะหรี่ที่อื่นคงลำบากกว่านี้มั้งถ้าไม่มีคนคอยช่วย

แต่พอกฎหมายมาก็คงทำงานสบายขึ้นหน่อย ไม่ต้องกลัวเท่าตอนนี้”

#เพื่อนพนักงานบริการ หรือ มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2547 จากการรวมตัวกันของพนักงานบริการและนักกิจกรรมที่ทำงานด้านการคุ้มครองสิทธิที่อยากจะสร้างพื้นที่ยืนให้กับพนักงานบริการได้มีความเท่าเทียมกับบุคคลอื่นในสังคม

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl