“แกมาทำอะไรเอาตอนนี้”
เป็นประโยคปฏิเสธความรักคลาสสิกตลอดกาลที่นุ่น ศิรพันธ์ ผู้รับบท ‘ดากานดา’ ในภาพยนตร์เพื่อนสนิท (2548) กล่าวเอาไว้ เธอพูดประโยคนี้ใต้ต้นชงโคที่ร่วงหล่น วินาทีที่พูด ดากานดาคงไม่ได้คิดว่าความสัมพันธ์ฉันเพื่อนสนิทของเธอและ ‘หมู’ (รับบทโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) จะจบลงไปด้วย มันยืนยาวอีกเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นหลังดากานดาไม่รับความรักจากเขา
หมู หรือที่ถูกเรียกว่า ‘ไข่ย้อย’ เป็นผู้หลบหนีมาชั่วชีวิต เขาหนีการพูดตรง ๆ กับดากานดาจนต้องเสียโอกาสที่จะมีเธอในฐานะคนรัก เขาหนีการรับมือกับความผิดหวังที่ถูกปฏิเสธจนเสียดากานดาไปในฐานะเพื่อนสนิท ในจักรวาลของภาพยนตร์ ไข่ย้อยและดากานดาไม่ได้พบกันอีก แต่เรื่องราวโศกนาฏกรรมรักครั้งนี้ก็ติดตราตรึงใจจนทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งในรอบ 20 ปี
#ไม่ใช่แค่ความรัก – แต่ดากานดาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของไข่ย้อยผู้มืดมน
ในขณะที่ดากานดาแปลว่าหญิงผู้เป็นที่รัก ชื่อธรรมดา ๆ ของหมู หรือแม้แต่สมญานามไข่ย้อย ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ ไม่น่าจดจำ และไม่ดึงดูดใจ เช่นเดียวกับตัวตนของไข่ย้อย เขาเป็นคนแปลก ๆ ที่ดูน่าอึดอัด ไม่พูดความคิดตัวเองตรง ๆ ไม่กล้าแสดงออก ติดจะขี้อาย จนเรียกได้ว่าเก็บตัวและเก็บกด นอกจากดากานดาและเพื่อนสนิทผู้ชายท่าทางโบ้ ๆ เบ้ ๆ ไข่ย้อยแทบไม่มีเพื่อนที่ไหนอีก
ไข่ย้อยตกหลุมรักดากานดาตั้งแต่วินาทีแรกที่พบหน้า และคงไม่มีวันจะหยุดรักดากานดาได้เลยชั่วชีวิต เพราะดากานดาโคตรสวยน่ารัก ดวงตาเป็นประกายใสแจ๋ว สดใสและใจดี เป็นที่รักและใส่ใจทุกคน ดากานดาเป็นความปลอดภัยสำหรับเขาที่ประดักประเดิด ดากานดามองเห็นเขาและแก้สถานการณ์น่าอับอายให้เขาด้วยเสียงหัวเราะ ขณะที่ไข่ย้อยเป็นเพียงนักศึกษาใหม่ที่ย้ายมาจากกรุงเทพมหานคร ทำอะไรเปิ่น ๆ ไม่น่าคบหา ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและดากานดาจึงมีค่า สำคัญ และอาจเรียกได้ว่าดากานดาเป็นศูนย์กลางจักรวาลของไข่ย้อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไร อยู่ที่ไหน คำตอบมันก็คือเป็นไปเพื่อการได้อยู่ใกล้ชิดดากานดาทั้งสิ้น
แม้ส่วนใหญ่ไข่ย้อยจะรักดากานดาเหลือเกินเพราะเธอโคตรมีเสน่ห์ แต่ความผูกพันของไข่ย้อยต่อดากานดาก็ประกอบด้วยหลายอย่าง บรรยากาศ สถานที่ สถานการณ์ที่ชวนให้ไข่ย้อยรู้สึกแปลกแยก ความไม่แยแสใครของผู้คนรอบข้าง ท่ามกลางความยากลำบากเหล่านั้น ความรักที่ดากานดามอบให้เขาช่างใจกว้างและไม่หวังอะไร ดากานดารักเพื่อนคนนี้จนบอกกับไข่ย้อยว่าเขาที่ดูมืดมนเช่นนี้ก็ทำให้คนตกหลุมรักได้แน่ ในสายตาไข่ย้อย เขาและดากานดามีโมเมนต์โรแมนติกร่วมกันมากมาย ดากานดาส่งยิ้มที่หวานเป็นพิเศษให้เขา ดากานดาและเขานอนร่วมเตนท์กัน ดากานดาซ้อนมอเตอร์ไซค์เขายามดึก เรากินสายไหมแท่งเดียวกัน กอดคอนั่งใกล้กันอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่มันเป็นความเข้าใจฝ่ายเดียว ไม่เคยมีสักครั้งที่ดากานดารักเขาในแบบที่ไม่ใช่เพื่อน
#โศกนาฏกรรมแห่งความไม่รัก – ดากานดาต่างหากที่เป็นฝ่ายสูญเสียในครั้งนี้
ภาพยนตร์บอกว่าไข่ย้อยจากไปเพราะถูกปฏิเสธความรัก และไม่ว่าไข่ย้อยจะตั้งใจหรือแค่รับมือกับความเจ็บปวดไม่ได้ เขาก็ลงโทษคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนสนิทด้วยการจากไปกับความเงียบงัน การหนีไปของไข่ย้อยทิ้งคำถามมากมายไว้กับดากานดา ความผิดหวังครั้งเดียวของไข่ย้อยทำให้ดากานดาต้องสูญเสียความสัมพันธ์ดีดีที่เธอก็ตั้งใจสร้าง ความเจ็บปวดของไข่ย้อยทำร้ายดากานดาเพราะเธอไม่อาจช่วยให้เพื่อนของเธอรู้สึกดีขึ้นได้เลย ช่วยไม่ได้ที่มันจะทำให้ดากานดาเจ็บไปทั้งชีวิตเมื่อคิดถึงไข่ย้อย และอาจรู้สึกติดค้างใจในบางครั้งที่คิดว่าเราจากกันไปเพราะไข่ย้อยคิดว่าเธอไม่รัก
แต่ดากานดารัก อย่างน้อยที่สุดก็เห็นไข่ย้อยสำคัญและอยากมีกันอยู่ในชีวิตเสมอ ใช่ว่าการสารภาพรักของไข่ย้อยจะเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับดากานดา เธอเองก็รับรู้ถึงสัญญาณที่ไข่ย้อยส่งมาเสมอ ทุ่มเทกับความสัมพันธ์นี้ถึงที่สุดและตั้งใจรักษามันไว้ด้วยการขีดเส้นความสัมพันธ์และบอกกับไข่ย้อยตลอดว่าให้มีชีวิตเป็นของตัวเอง ชื่นชมและให้กำลังใจเพื่อน พยายามอย่างยิ่งแม้ไข่ย้อยจะทำตัวแปลกประหลาด เพราะเชื่อว่าความลึกซึ้งทางใจของเรามันเข้มแข็งกว่านี้ เราต้องผ่านมันไปได้สิวะ
ช่วงเวลาดีดี 3-4 ปีที่ไข่ย้อยและดากานดาผ่านกันมาไม่มีค่าเลยสำหรับไข่ย้อย ทันทีที่ดากานดาปฏิเสธความรักแบบโรแมนติก ไข่ย้อยเคารพตัวเองที่ไม่ต้องการคำว่าเพื่อนและเดินจากไป แต่เขาก็ไม่เคยเคารพความต้องการของดากานดาที่บอกเสมอว่าเราเป็น ‘เพื่อน’ กัน และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ ไข่ย้อยไม่สนใจความรู้สึกอื่น ๆ ที่ล้อมรอบความสัมพันธ์นี้ไว้ ถ้าไม่ใช่คนรักกัน ก็ไม่ขอเป็นอะไรอีก และนี่คือความใจร้ายของไข่ย้อยที่ทิ้งแผลใจไว้กับดากานดาผู้ปรารถนาดีต่อเขาเสมอ น้ำตาของดากานดาในตอนท้ายของเรื่องบอกได้ดีว่าดากานดาเจ็บปวดแค่ไหน
ท้ายที่สุดในภาพยนตร์ไข่ย้อยเปิดใจสำหรับความรักครั้งใหม่ และดากานดาก็ใช้ชีวิตต่อไปกับแผลใจที่เธอไม่อาจจัดการได้เลย โศกนาฏกรรมในเรื่องนี้จึงไม่ใช่ความร้าวรานที่คนสองคนไม่อาจลงเอยกันในฐานะคนรัก แต่เป็นการจบลงของความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งเพราะไข่ย้อยยังเด็กเกินไปที่จะเรียนรู้ว่าความรักมีได้หลายรูปแบบ แม้ไม่อาจเป็นคนรัก แต่เขาก็เคยได้รับความรักอย่างจริงใจ และมันอาจเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งทางใจ (Platonic Relationship) แบบที่เขาไม่อาจหาได้อีกแล้วชั่วชีวิต
ถ้าไข่ย้อยรู้ว่าดากานดารักเขามากเท่าที่จะรักได้ วันนี้เขากับดากานดาอาจเป็นเพื่อนที่รักกันที่สุดคู่หนึ่ง และถ้าไข่ย้อยรู้สักนิดว่าการบอกลาไม่ใช่ทางออกเดียวของความเจ็บปวด เขากับดากานดาอาจไม่ต้องใช้เวลา 20 ปีเพื่อมองหน้ากันด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ แต่ไม่อาจกอบกู้อะไรกลับมาได้แล้ว
ในโลกแห่งความเป็นไปได้ ไข่ย้อยต่างหากที่เป็นฝ่ายปฏิเสธดากานดา และดากานดาต่างหากที่เป็นฝ่ายร้าวรานไปทั้งชีวิต เพราะความไม่รักของไข่ย้อย
#เพื่อนสนิท #ไข่ย้อย #ดากานดา #Spectator #ImOk_NotOk #BOYdPODxBillkin
Content by Ms.Satisfaction
Graphic by Chayanit K.
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
