Spectrum

เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านกลายเป็นวันที่ประตูนรกเปิด LGBTQ+ ถูกขู่เอาชีวิต ตีตรา และด่าทอตั้งแต่ 6 วันแรกหลังสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

3 นาที

4

Share to

มกราคม 29, 2025

3 นาที

4

มกราคม 29, 2025

Share to

“มาถึงจุดที่เมื่อเราแต่งงานแล้วคนส่งข้อความมาขู่ คอระฆัง ไม้เอก สระอา” พอร์ช อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี เผยผ่านบัญชี Facebook ส่วนตัวเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา ถึงการคุกคามที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาและอาร์ม สัพพัญญู ปนาทกูล เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันได้ไม่นาน การข่มขู่ที่เกิดขึ้นได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขา และสะท้อนถึงปัญหาที่หลายคนอาจไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ หลังจากประเทศไทยประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมานี้

ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ควรจะเต็มไปด้วยความสุขและการเฉลิมฉลองสำหรับคู่รักเพศหลากหลาย จะกลับกลายเป็นช่วงเวลาของความวิตกกังวลเสียแทน พอร์ช-อาร์มเป็นหนึ่งในคู่รักเพศเดียวกันที่ตัดสินใจจดทะเบียนสมรสทันทีหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ พวกเขาคาดหวังถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทว่าในความเป็นจริง สิ่งที่ต้องเผชิญกลับกลายเป็นการไม่เป็นที่ยอมรับโดยเพื่อนร่วมชาติ

หลังจากที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้รับการบังคับใช้ คู่สมรสเพศหลากหลายสัญชาติไทยจากทั่วทุกพื้นที่ ต่างพากันจับมือถือแขนออกเดินทางสู่สำนักทะเบียน อำเภอ เขต และสถานฑูตประเทศไทยในต่างประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มคนที่ยังคงต่อต้านและแสดงความเกลียดชังต่อชุมชนคนเพศหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรูปแบบของข้อความโจมตีทางโซเชียลมีเดีย ไม่เพียงแต่กรณีของพอร์ช-อาร์มเท่านั้นที่สะท้อนให้เห็นถึงอคติที่ยังคงฝังรากลึกอยู่ในสังคมไทย เพราะตลอด 6 วันที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุการณ์อื่น ๆ ที่ฉายภาพสะท้อนอคติความเกลียดชังที่ค่อนข้างเด่นชัด เริ่มตั้งแต่ในบ่ายวันเดียวกันที่สมรสเท่าเทียมได้รับการประกาศใช้ บัญชี Facebook ของทนายธรรมราชได้ออกมาแสดงความเห็นที่ชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นการละเมิด ‘กฎจักรวาล’ โดยอ้างว่าการสมรสของคู่รักเพศกำเนิดเดียวกันไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ ผูกโยงประเด็นนี้เข้ากับความเชื่อทางศาสนาด้วยการกล่าวถึง ‘ดวงจิตที่รอมาเกิด’ ซึ่งจะไม่ได้เกิดจากคู่สมรสเท่าเทียม ทั้งยังคาดคะเนถึงความเป็นไปได้ที่มนุษย์จะสูญพันธุ์หากไม่มีการสืบทอดเผ่าพันธุ์เพราะกฎหมายสมรสเท่าเทียมอีกด้วย 

ไม่กี่วันต่อมา ได้มีบัญชีผู้ใช้ X รายหนึ่งโพสต์ตั้งคำถามถึงการประกาศใช้สมรสเท่าเทียม โดยอ้างในทำนองว่ากฎหมายฉบับนี้กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเบี่ยงเบนความเป็นจริงที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ และไม่เห็นด้วยที่จะต้องแสดงความยินดีกับมันแม้แต่น้อย ผสมโรงเข้ากับกระแสคำปฏิเสธและการเหยียดคนรักเพศเดียวกันจากบรรดาเพจและบัญชีผู้ใช้ที่ประกาศจุดยืนทางความเชื่อ บ้างกล่าวว่าผิดต่อหลักการและคำสอน บ้างขอออกมาต่อต้านอย่างสุดกำลัง บ้างต่อว่าด่าทอถึงการกระทำที่เข้าขั้นผิดศีลธรรมอันดีตามกรอบความเชื่อที่ตนยึดถือ

หลังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประกาศเดินหน้าจัดสรรงบประมาณกว่า 145.63 ล้านบาทเพื่อสนับสนุน ‘ยาฮอร์โมน’ สำหรับบุคคลข้ามเพศ เกิดเหตุการณ์ที่ชาวเน็ตออกมาตั้งคำถามถึงความจำเป็นของนโยบายดังกล่าว เสียงส่วนหนึ่งมองว่าสิ้นเปลืองงบประมาณและอาจเป็นการเอาเปรียบคนตรงเพศกำหนด อีกทั้งยังมีกรณีของการเดินหน้า พ.ร.บ. คำนำหน้านาม ที่เมื่อเป็นที่พูดถึงโดยส.ส.ท่านใด ก็มักจะมีเสียงจากประชาชนบางกลุ่มออกมาคัดค้านอย่างพร้อมเพรียงด้วยจุดยืนร่วมที่ระบุว่าผู้หญิงข้ามเพศไม่ควรถูกรับรองเป็นนางสาว

แม้ว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นก้าวสำคัญของสังคมไทย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิทธิของคนเพศหลากหลายจะได้รับการคุ้มครองอย่างถาวร สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาหลังทรัมป์ประกาศคำสั่งบริหารตัดงบประมาณด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI) ชี้ชัดว่าการมีกฎหมายที่สนับสนุนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรับประกันความเท่าเทียมได้เสมอไป การยุติลงของโครงการ DEI ทำให้สิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศถูกลดทอนลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าสิทธิเพื่อความหลากหลายอาจถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนได้เสมอ หากไม่มีแนวทางเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับชุมชนเพศหลากหลายในประเทศ ดังนั้นแล้วการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางเพศสภาพและอัตลักษณ์ทางเพศ ประกอบกับมาตรการเพื่อคุ้มครองผู้ตกเป็นเหยื่อของความเกลียดชังทางเพศ ควรเป็นก้าวสำคัญก้าวถัดไปเพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เท่าเทียมอย่างยั่งยืน

Content by kulkul

Graphic by tonfernjiew

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

a senior baby girl