Spectrum

เส้นทางการต่อสู้ของเด็กช่างฝัน ‘ซากุระ เคอิโงะ ซาโต’

3 นาที

4

Share to

มีนาคม 13, 2025

3 นาที

4

มีนาคม 13, 2025

Share to

“หนูสู้ชีวิตมาตลอด แต่ตอนเด็กสู้เพราะว่าเราไม่มีอะไรจะกิน ตอนนี้ได้สู้เพื่อความฝันบ้างแล้ว”

เราคุยกับซากุระ เคอิโงะ ซาโต ในบ่ายวันหนึ่งหลังซากุระเริ่มเก็บตัวกับกองประกวด Miss Tiffany’s Universe ที่เป็นเวทีในฝันของซากุระตั้งแต่เด็ก

ย้อนไปในปีพ.ศ. 2553 ซากุระเป็นที่รู้จักในสื่อในชื่อ ‘เคอิโงะ ซาโตะ’ เด็กที่ตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น ตอนนั้นซากุระเป็นเด็กขายของในวัดท่าหลวง วัดดังประจำจังหวัดพิจิตร เคอิโงะถือรูปถ่ายของพ่อติดตัว คอยถามนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาที่วัดว่ารู้จักชายในรูปไหม การต่อสู้ครั้งนั้นเรียกความสนใจจากสื่อและทำให้เคอิโงะได้เจอพ่อในที่สุด เรื่องราวของเด็กคนนั้นเงียบหายไปจนกระทั่ง เกือบ 10 ปีต่อมา เราได้เจอเด็กคนนี้อีกครั้งในชื่อ ‘ซากุระ ซาโต’ ซากุระเล่าว่าเธอรู้ตัวว่าเป็นผู้หญิงตั้งแต่ 4 ขวบ และกว่าจะได้เปิดเผยเป็นตัวเองเต็มที่ก็ผ่านเวลาหลักสิบปี

“หนูสู้มาตลอดเลยตั้งแต่เด็ก ตามหาพ่อ ทำมาหากิน สู้เพื่อให้ได้เป็นผู้หญิง กว่าจะมาเป็นซากุระวันนี้ก็ผ่านมาเยอะ ชื่อซากุระก็เลยมาจากการเริ่มต้นใหม่ที่สวยงาม เหมือนชีวิตหนู”  

ซากุระเล่าว่าการประกวดเวที Miss Tiffany’s Universe เป็นความฝันตั้งแต่เด็กของเธอ ตั้งแต่ยังไม่กล้าเปิดเผยอัตลักษณ์ก็เคยแอบเอาผ้ามาทำผม แอบซื้อส้นสูงมาใส่ แม้จะเคยผ่านช่วงที่ปฏิเสธกับคนอื่นไปว่า ‘ไม่ได้เป็น’ แต่เธอยังมีภาพตัวเองเป็นผู้หญิง และยืนอยู่บนเวทีนางงามเสมอ

“หนูอยากมาประกวดเวทีนี้ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ตอนนั้นยังไม่เปิดเผยตัวตน ไม่เคยบอกใคร มีแอบแต่งหญิงเป็นครั้งคราว แต่คนรอบตัวเขารู้อยู่แล้วแหละ หนูตุ้งติ้ง แต่เขาไม่ได้คิดว่าเราจะเปลี่ยนแปลงเป็นผู้หญิงเต็มตัวถาวร เราเองก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้”

#การสูญเสียโอกาสเพราะห่างไกล – เด็กนักเรียน เด็กข้ามเพศ และที่ต้องหาเลี้ยงตน

แต่การเป็นผู้หญิงข้ามเพศในต่างจังหวัดไมใช่เรื่องง่าย อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับซากุระที่ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองไปด้วย เรียนหนังสือด้วย เธอเล่าว่าย้อนไปช่วงที่แรกที่กำลังค่อย ๆ แต่งตัวเป็นผู้หญิง การเข้าถึงข้อมูลการข้ามเพศอย่างปลอดภัยเป็นเรื่องเข้าถึงยาก ไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร ไม่รู้แม้กระทั่งจะเริ่มต้นตั้งคำถามอย่างไร

“หนูมารู้จักการเทคฮอร์โมนเพราะไปออกรายการพี่นัท นิสามณี ก่อนหน้านั้นหนูกลัวตายก็เลยไม่เคยใช้ฮอร์โมน แถวบ้านหนูไม่ได้มีแพทย์ให้ความรู้ทางด้านนี้โดยเฉพาะทาง เคยได้ยินว่า อุ้ย กินตัวนี้สิ นมจะได้ใหญ่ กินตัวนี้สิ สิวจะได้หาย กินตัวนี้สิ หน้าจะได้หวาน กินตัวนี้ ไหล่จะได้ซอฟต์ ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงไหม มันปลอดภัยจริงไหม เพราะว่าหนูเคยเห็นเพื่อนกินข้างกล่องเขาเขียนว่ายาอันตราย”

นอกจากเรียนการข้ามเพศ การใช้ชีวิตในต่างจังหวัดที่มีทรัพยากรไม่เท่ากรุงเทพมหานครยังทำให้ซากุระรู้สึกสูญเสียโอกาสหลายอย่างในชีวิต และหนึ่งในเรื่องที่เธอชอบมากที่สุดและเสียดายมากที่สุดคือโอกาสทางการศึกษา ซากุระเล่าว่าเธอมีความฝันจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ด้วยความรับผิดชอบและฐานะทางบ้านที่ทำให้เธอมีหน้าที่หารายได้ เงื่อนไขการเรียนต่อมหาวิยาลัยจึงจำเป็นต้องอยู่ใกล้บ้านมากพอจะกลับมาช่วยขายของในวันเสาร์-อาทิตย์

“เรื่องอนาคตหนูก็กังวล เพราะไม่รู้อะไรมาก อิสระก็ไม่ค่อยมี หนูจะไปยื่นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ไม่ได้ เพราะมันไกลไป กลับมาขายของไม่ได้ ที่บ้านให้หนูเรียนมหาวิทยาลัยนเรศวร หนูไปหาข้อมูลดูก็ติด Top 10 ของประเทศไทยเหมือนกัน การเรียนการสอนก็ดีค่ะ แต่มหิดลก็ยังเป็นความฝันของหนู ไม่แน่นะ หนูอาจจะเรียนปริญญาโทที่มหิดลก็ได้ เพื่อที่จะได้ทำความฝันตรงนี้ให้สำเร็จ เพราะหนูพลาดโอกาสในชีวิตมามากแล้ว”

#มิตรภาพนางงาม – ความฝัน เป้าหมาย และคุณค่าทางใจบนเวทีทิฟฟานี่

ซากุระพูดย้ำหลายครั้งตลอดการสัมภาษณ์ว่าการมาเวที Miss Tiffany’s Universe เป็นความฝันของเธอ ไม่ใช่แค่เพราะการได้เป็นนางงาม แต่คือการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มีคนเพศหลากหลายด้วย ซากุระอยากอยู่ท่ามกลางคนที่เข้าใจเธอในฐานะผู้หญิงข้ามเพศ อยากมีแม่ ๆ พี่ ๆ ที่ให้คำปรึกษาได้ อยากมีเพื่อนไว้แลกเปลี่ยนความรู้และการพัฒนาตัวเอง ที่ซากุระมองว่าเวทีทิฟฟานี่ตอบโจทย์ทุกอย่าง ที่นี่มีผู้หญิงจากมากมายหลายอาชีพและที่มา และทุกคนก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันต่างจากภาพจำละครของโลกนางงาม

“หนูได้เพื่อนทั้ง 33 คน  ได้รุ่นพี่ที่เป็นเภสัชกร หนูได้เพื่อนที่ทำงานต่าง ๆ หนูได้คอนเน็คชั่น เวลาเรามีปัญหาอะไรก็สามารถไปสอบถามเขาได้ ทุกคนมาจากหลากหลายอาชีพมาก อย่างน้อยหนูได้รู้จักเพื่อนก็มีความสุขแล้ว เพราะชีวิตประจำวันมันไม่มีเพื่อนเลย (หัวเราะ)”

แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของการร่วมประกวดคือการคว้าชัยกลับบ้าน และซากุระก็พูดว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวที่เธอจะสู้ในเวทีนี้ ก่อนจะไปสู้ต่อบนเวทีชีวิตอื่น

“หนูลงทุนมากนะกับการลงประกวดครั้งนี้  ไม่มีใครซัพพอร์ตหนู แต่หนูตั้งใจสุด ๆ อยากได้ตำแหน่งกลับไปสักอย่าง แต่ถ้าไม่มีหนูก็ต้องไปหาเป้าหมายอย่างอื่นทำต่อ เพราะชีวิตของเรามันคือการเรียนรู้ การได้พัฒนาตัวเอง ในอนาคตหนูอาจจะเป็นนักดาราศาสตร์ก็ได้ ในอนาคตหนูอาจจะเป็นหมอก็ได้ ในอนาคตหนูอาจจะเป็นดาราก็ได้ใครจะไปรู้ เพราะว่าเป้าหมายชีวิตคนเราไม่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ณ เวลานั้น แต่ ณ เวลานี้หนูอยากเป็น Miss Tiffany’s ก็เลยตั้งใจทำมันสุดความสามารถ”

เราถามซากุระต่อว่า แล้วเป้าหมายต่อไปหลังเสร็จสิ้นภารกิจกับเวทีทิฟฟานี่แล้ว เธออยากทำอะไร อะไรคือ ‘ความสำเร็จ’ ที่เธอตั้งเป้าไว้

“ตลอดชีวิตหนูอยากเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด ถ้าวันนี้พี่มองว่าหนูสวย หนูก็ถือว่าสำเร็จแล้วเป้าหมายนึง หนูไม่มีภาพความประสบความสำเร็จในชีวิต แค่อยากพัฒนาไปเรื่อย ๆ ใช้ทุกโอกาสที่ได้ให้ดี เพราะเราไม่รู้อนาคต หนูอาจจะไม่ได้มงกุฎแต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่า 34 มิสทิฟฟานี่ปีนี้มีชื่อซากุระ เคอิโงะ ซาโต แล้ว”

#ซากุระซาโต #sakurasato
#MTU2025 #MissTiffanysUniverse #MovingForward_พุ่งทะยานสู่วันใหม่

Content by Kantamas P

Graphic by Frogman

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl