Spectrum

แพทองธาร ชินวัตรถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี สู่คำถามอีกครั้งของ ‘จริยธรรม’ ในการเมือง

3 นาที

4

Share to

กรกฎาคม 1, 2025

3 นาที

4

กรกฎาคม 1, 2025

Share to

“ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรของตัวเองเลย คิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ คงรับไม่ได้หากพูดแล้วเกิดผลเสีย ทะเลาะ โกรธเคือง เพราะฉะนั้น นี่คือสิ่งที่ตั้งใจ จะตั้งใจชี้แจงอย่างครบถ้วน ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาไม่ขาดสาย ต้องขอโทษคนไทยทุกคนที่ไม่สบายใจกับเรื่องนี้” คือถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

ภายหลังเกิดเหตุกัมพูชาปล่อยคลิปเสียงการสนทนาอย่างเป็นส่วนตัวของแพทองธารและฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา สว. 36 คนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาถอดถอนนายกรัฐมนตรีเนื่องด้วยข้อหาผิดจริยธรรมในคำร้องของ 36 สว. ส่วนหนึ่งระบุว่า “ผู้ถูกร้องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ความผิดที่นายกรัฐมนตรีถูกร้องในครั้งนี้จึงถูกพิจารณาตามหมวดที่ 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์” ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติกรรมที่รู้เห็นยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งหากพิจารณาแล้วเข้าข่ายผิดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อาจมีคำตัดสินสูงสุดคือไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ตลอดชีวิต สามารถเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ไม่เกิน 10 ปี และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดใดทั้งสิ้น

การสื่อสารผ่านโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวเป็นการพยายามใช้สันติวิธีเพื่อแก้ปัญหาชายแดน นายกรัฐมนตรีของไทยเป็นผู้เสียหายในกรณีถูกปล่อยคลิปเสียงนี้ ไทยยังไม่เสียอธิปไตยใดใดทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริงหลังจากหักล้างวาทกรรมชาตินิยมและความเกลียดชังที่มุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร

#จริยธรรมค้ำใคร – เพราะเป็นการเมืองคนดี เลยต้องมีศาลมาตรวจสอบจริยธรรม

‘มาตรฐานจริยธรรม’ เป็นกรอบความผิดกว้าง ๆ ที่เอื้อต่อการตีความในรัฐธรรมนูญปี 60 และไม่เคยปรากฏมาก่อนในรัฐธรรมนูญไทย มาตรฐานจริยธรรมเป็นเรื่องเขียนใหม่ในยุคคสช. โดยองค์กรที่แต่งตั้งโดยคสช. เพื่อจัดระเบียบและกำจัดนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย มาตรฐานจริยธรรมไม่เชื่อว่าชาวบ้านคนธรรมดาจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง และถูกเขียนมาเพื่อพานายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งของประชาชนให้ติดกับดักอะไรสักอย่างอยู่เสมอ มาตรฐานจริยธรรมเป็นเครื่องมือที่ไม่ชอบธรรมที่เกิดในยุคเผด็จการ และดูแคลนคนไทยทั้งหมดด้วยคำว่าคนดี

ที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกถอดถอนไปแล้วด้วยเหตุแห่งการผิดมาตรฐานจริยธรรมด้วยเหตุผลว่าแต่งตั้งผู้เคยมีความผิดตามกฏหมายให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี และมีนักการเมืองถึง 4 คน ถูกตัดสิทธิสมัครเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดใดตลอดชีวิต

แต่ประชาธิปไตยต้องการเพียงเสียงข้างมาก การเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนตัดสินใจทุก ๆ 4 ปีก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับการเมืองไทย มีองค์กรอิสระมากมายที่ไม่อำนาจไม่ยึดโยงกับประชาชน คอยขัดแข้งขัดขาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่ให้สามารถเดินไปได้ตามครรลอง

สังคมไทยต้องการรัฐบาลประชาธิปไตยที่เป็นปกติ เราไม่ต้องการยุบสภา ไม่ต้องการรัฐประหาร ไม่ต้องการสงคราม และเราต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้เร็วที่สุดเพื่อปลดล็อก ‘การเมืองคนดี’ ออกไป

เพราะประชาธิปไตยต้องเชื่อใน ‘อำนาจ’ ตัดสินใจของประชาชนทุกคน

#แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี #ศาลรัฐธรรมนูญ

อ้างอิง

ilaw: https://bit.ly/3GdQk3b

ThaiPBS: https://bit.ly/3TjwKFC

Infoquest: https://bit.ly/4nnTIJn

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl