คุณช่วยตัวเองครั้งแรกตอนอายุเท่าไร ?
ถ้าคุณเป็นผู้หญิง คำถามนี้คงยากเกินกว่าที่จะยอมรับออกมาตรง ๆ เช่นเดียวกับเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตอบว่า ‘ไม่เคยช่วยตัวเอง’ ในผลสำรวจเมื่อปี 2014 เส้นแบ่งบาง ๆ ของคำถามน่าอึดอัดนี้มาจากอะไร? ความเป็นส่วนตัว? เรื่องผิดบาป? แต่ที่แน่ ๆ ความจริงเรื่องการช่วยตัวเองของผู้หญิงนั้นซุกซ่อนอยู่ลึกมาก ๆ ทั้งในแง่จำนวน ความเป็นเรื่องปกติ หรือแม้แต่วิธีการช่วยตัวเองที่อาจจะไม่ได้วนรอบการสอดใส่แบบเฮทเทอโร-เซนทริค
ทั้งที่การช่วยตัวเองคือ Sexual Health ที่สำคัญ แต่สังคมกลับปล่อยให้มายาคติและความเข้าใจผิดถูกผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า มายาคติเหล่านี้ถูกแฝงฝังอย่างแนบเนียนจนกลายเป็นบรรทัดฐานหลักของสังคม หากผู้หญิงคนไหนที่กล้าคิด กล้าพูด หรือกล้าทำ จะกลายเป็น ‘ผู้หญิงแรงๆ’ มักมาก ขัดกับภาพจำของสังคมและไม่อยู่ในกรอบ ‘ผู้หญิงที่ดี’ ที่สังคมต้องการ
ทุก ๆ เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนแห่งการช่วยตัวเอง ‘Masturbation May’ นี่เป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งที่เราจะได้มาคุยกันตรง ๆ ว่าการช่วยตัวเองไม่ได้เป็นเรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่เรื่อง ‘ไม่เหมาะสม’ คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดที่รู้จักร่างกายและความต้องการของตัวเองอย่างดี แต่ในสังคมที่เต็มไปด้วยการซ้อนทับของอคติ เพศสภาพ เพศวิถี และการมองโลกแบบที่มีโลกทัศน์ของผู้ชายเป็นศูนย์กลางต่างหาก ที่บอกว่าผู้หญิงต้องรอให้ใครสักคนมาเติมเต็มและมอบความสุขทางเพศให้ แทนที่จะให้เธอเป็นเจ้าของมันด้วยตัวเอง
และนี่คือ 5 เรื่องเข้าใจผิดของการช่วยตัวเอง
ความเข้าใจผิดที่หนึ่ง: #ผู้หญิงไม่ช่วยตัวเอง
ร้อยละ 56 ของผู้หญิงคิดว่าการช่วยตัวเองของพวกเธอเป็นสิ่งผิดปกติ แล้วยังมีกลุ่มคนที่เชื่อว่า “ผู้หญิงไม่ช่วยตัวเองเลย” และมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำกัน แต่จริง ๆ แล้วผู้หญิงมีการช่วยตัวเองอยู่ตลอด เพียงแค่ที่ผ่านมาอาจไม่สามารถเปิดเผยได้ด้วยเงื่อนไขของสังคมที่มองว่าผู้หญิงช่วยตัวเองเป็นเรื่องรับไม่ได้ มีสื่อมากมายที่พูดถึงการช่วยตัวเองของคนเพศชายและองคชาติ เราได้ฟังในเพลง ได้เห็นในซีรีส์ ได้เจอบ้างตามงานศิลปะ การสำเร็จความใคร่ของจู๋อยู่คู่สังคมเสมอมา แต่ว่าการช่วยตัวเองของผู้หญิงมีจิ๋มยังเป็นเรื่อง taboo ไม่เหมาะสมในสังคมเสียอย่างนั้น
ความเข้าใจผิดที่สอง: #จะออกัสซั่มได้ต้องสอดใส่เท่านั้น
อันที่จริงแล้ว การจะถึงจุดสุดยอดหรือรู้สึกเสียวได้ ไม่จำเป็นต้องสอดใส่เสมอไป มีงานวิจัยมากมายที่บอกกับเราว่าการกระตุ้นคลิตอริสจะช่วยให้ผู้หญิงเสร็จได้มากกว่าการสอดใส่ เช่นดังงานวิจัย Orgasmic Latency and Related Parameters in Women During Partnered and Masturbatory Sex ที่ตีพิมพ์ใน Jornal of Sexual Medicine ที่ได้ทำการศึกษาในผู้หญิงจำนวน 2,304 คนด้วยแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพเพศ พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้เร็วกว่าเมื่อช่วยตัวเอง หากเทียบกับตอนมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน
อีกทั้งยังมีนวัตกรรมในรูปแบบของ sex toys มาตอบสนองการกระตุ้นรูปแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเภทการสั่น (Vibrator) หรือแบบ Suction Toy ที่เป็นเซ็กซ์ทอยประเภทที่ขายดีอันดับ 1 ตอกย้ำว่าการสอดใส่เป็นทางเลือกพาไปสู่ออกัสซั่ม ไม่ใช่หนทางเดียวที่จะพาไปสู่การเสร็จสม
ความเข้าใจผิดที่สาม: #หนังโป๊คือสิ่งจำเป็นในการตริ้วววว
การดูภาพ คลิป หรือนึกถึงหน้าใครสักคน (หรือมากกว่า) เมื่อช่วยตัวเอง เป็นเพียงวิธีหนึ่งเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วการช่วยตัวเองไม่จำเป็นต้องอาศัยจินตนาการ หรือการกระตุ้นผ่านเรื่องราว บางคนอาจช่วยตัวเองโดยอาศัยแค่การรู้จักร่างกายตัวเองดีผ่านการสำรวจ เช่น รู้ว่าชอบกระตุ้นแบบไหน อย่างไร เป็นการใช้วิธีการมาพาตัวเองไปส้จุดหมายแทนการจินตนาการ แต่ทั้งนี้การใช้จินตนา สร้างสถานการณ์ร่วมก็ยังเป็นวิธีที่หลายคนพิสูจน์แล้วว่าเพิ่มอรรถรสให้การช่วยตัวเอง หรือ Solo Sex ได้
ความเข้าใจผิดที่สี่: #การช่วยตัวเองเป็นเรื่องของคนโสดโคตรอาภัพรัก
หลาย ๆ ความเห็นในเว็บบล็อกหรือช่องทางต่าง ๆ ที่เป็นคอมมูนิตี้ที่คุยถึงเรื่องนี้ล้วนกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่เป็นเรื่องแปลกเลยที่ถึงจะมีพาร์เนอร์หรือคู่รักแล้วแต่ยังคงช่วยตัวเอง และเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่มีแค่ระหว่างรอมีเซ็กซ์แบบสอดใส่กับแฟน
ความเข้าใจผิดที่ห้า: #ช่วยตัวเองมากไปอารมณ์ทางเพศลดลง
หากจะใช้คำว่า ‘มากเกินไป’ เป็นมาตรวัดคงไม่เหมาะสมนัก เพราะร่างกายแต่ละคนแตกต่างกัน การช่วยตัวเองทุกวันไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นอาการคนติดเซ็กซ์และมีความผิดปกติทางจิตใจ ซึ่งหากว่ากันตามตรงแล้ว ในทางการแพทย์ไม่มีข้อยืนยันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ‘ความถี่’ ของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน แต่ดูที่การรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเจ้าของร่างกายต้องตัดสินเอง ว่าเท่าไหร่คือมากไป เมื่อไหร่คือรบกวน แต่ที่แน่ ๆ ความถี่ของการช่วยตัวเองไม่ได้ส่งผลทางตรงต่ออารมณ์ทางเพศระยะยาว
การช่วยตัวเองคือสิทธิของเจ้าของร่างกาย ไม่ใช่การเรียกร้องให้ใครสนใจ – หลายต่อหลายครั้ง คนที่ออกมาพูดหรือชักชวนให้คนช่วยตัวเองกันอย่างไม่ต้องรู้สึกผิดมักโดนต่อว่าว่าเป็น ‘คนใจกล้า’ ทำไปเพื่อเรียกร้องให้คนสนใจ หรือเมื่อมีใครที่อยากขอคำปรึกษาในการช่วยตัวเองอย่างถูกต้องปลอดภัย กลับกลายเป็นถูกคุกคามเพราะทึกทักไปเองว่าพวกเธอต้องการการเติมเต็มเรื่องเซ็กซ์จากคนอื่น ทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากความคิดเหยียดเพศที่อยู่บนบรรทัดฐานรักต่างเพศมาเป็นเวลานาน การแก้ไขความเข้าใจผิดเหล่านี้อาจต้องเริ่มจากการปรับความคิด และน้อมรับความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาเสียก่อน ยืนยันอีกครั้งว่าการช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด และเราสามารถทำได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดจากพันธนาการทางศีลธรรม ค่านิยมและทัศนคติเหยียดเพศที่ผูกมัดเราเอาไว้
สุดท้ายนี้ หากลองตั้งคำถามกับความ ‘ปกติ’ ในแง่อื่น ๆ ดูบ้าง ก็อาจเป็นอะไรที่น่สนใจไม่น้อย เพราะสิ่งที่สังคมบอกว่าดี ที่จริงอาจมีอะไรซุกซ่อนอยู่แล้วรอวันคลี่ขยาย คล้ายกับเรื่องการช่วยตัวเองที่เราคุยกันในวันนี้ มันเป็นเพียงเรื่องปกติจากความปรารถนาของร่างกายที่อาจเรียกร้องให้เราได้ย้อนมองและสำรวจความต้องการเหล่านี้เป็นอย่างดีก็ได้
#MasturbationMyth #การช่วยตัวเอง #เพศศึกษา
Graphic by Kasidit Taranabhaiboon
อ้างอิง
Brook: https://bit.ly/4k9KwGK
Everyday Feminism: https://bit.ly/3Fg9mW5
Nuawoman: https://bit.ly/43BGRvc
PobPad: https://bit.ly/4mkqGtT
The Momentum: https://bit.ly/4mfw4OG
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”