“สวัสดีค่ะ มิ้วกี้ ไปรยา คุณแม่สุดแซ่บสวยเซ็กซี่ซู่ซ่าค่ะ”
‘มิ้วกี้ ไปรยา อนันตรทรัพย์’ โลดแล่นและเฉิดฉายในวงการบันเทิงในฐานะเพื่อนสาวสายปาร์ตี้ นักธุรกิจที่ขยันขันแข็ง และคุณแม่สุดแซ่บแสนคูล ที่มิ้วกี้เล่าว่าการเป็น Cool Mom คือบทบาทที่มิ้วกี้เลือกแล้วว่าเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวที่มี ‘น้องกาเนส’ ลูกชายวัย 8 ขวบเป็นศูนย์กลาง
Milky Praiya as #CoolMom
“Cool Mom เท่านั้น เพราะเราทำงานตลอดเวลา มีคนคอมเมนต์ไลฟ์สไตล์ตลอดเวลา ต้องอาศัยความเข้าใจของลูก แล้วเราพูดกับลูกตรง ๆ ทุกเรื่อง”
มิ้วกี้เล่าต่อว่าการพูดตรง ๆ กับลูกไม่ได้หมายถึงการบอกเล่าหมดเปลือก หรือมองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แต่หมายถึงการเคารพลูก เข้าใจช่วงวัย และเข้าอกเข้าใจเขา มิ้วกี้ไม่เชื่อในการปกปิดความจริงจากลูกด้วยการให้เหตุผลว่า ‘รอให้โตก่อน’ เพราะรู้ดีว่าเด็กสมัยนี้เติบโตพร้อมสื่อรอบด้าน โดยเฉพาะน้องกาเนสที่เป็นลูกของพ่อแม่ที่ทำงานในวงการบันเทิง การปิดกั้นข้อมูลจากลูกอาจเป็นผลเสียมากกว่า
“เราคุยกันแบบจริงจัง มิ้วกี้บอกเขาตลอดว่าบางทีหม่ามี้ไปบางรายการเขาจะสัมภาษณ์หม่ามี้ด้วยคำถามที่มันแรงมาก ๆ มันเป็นคาแรคเตอร์ของหม่ามี้ที่จะต้องพูดออกไปแบบนั้นนะ ถ้าวันนึงลูกโตขึ้นแล้วได้เห็นรายการต่าง ๆ แล้วลูกอยากรู้ว่า มันคืออะไร ทำไมตอบแบบนี้ ให้ลูกถามหม่ามี้ด้วยตัวเอง อย่าฟังจากคนอื่น”
แต่เส้นทางการเป็นคุณแม่สุดแซ่บไม่เคยง่ายในสังคมที่การเป็นผู้หญิงแซ่บอยู่ยาก และการเป็นแม่ที่แซ่บอยู่ยากยิ่งกว่า หลายครั้งช่องคอมเมนต์ในอินสตาแกรมของมิ้วกี้จึงมีการตั้งคำถามต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ รวมถึงจิตใจของลูกชาย และคอมเมนต์เหล่านั้นมักฝากฝังเอาไว้ในรูปภาพที่มิ้วกี้ทำกิจกรรมนอกนิยามดั้งเดิมของคำว่า ‘แม่ที่ดี’ อย่างการปาร์ตี้ หรือแม้กระทั่งการถ่ายรูปคู่กับเพื่อน หรือคนที่มีข่าวเดต
“เราไม่ต้องแข่งขันกับใครว่าแบบไหนคือแม่ที่ดีที่สุด ใครบอกว่าแม่ต้องหาเงินเก่ง ต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ปาร์ตี้ เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญเลย แค่เราและลูกเข้าใจกันก็พอ
เราเป็นตัวเองได้ เป็นแม่ที่ดีได้ เราไม่ต้องเลือก”
Milky Praiya as #Daughter
แน่นอนว่า การเป็นแม่แสนคูลและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมีเส้นทางที่ต้องฟันฝ่า และมีช่วงเวลงที่ต้องการความช่วยเหลือ มิ้วกี้เล่าว่าทุกความสำเร็จที่มี และทุกก้าวที่เดินไปข้างหน้า มีคนที่ประคองมิ้วกี้เสมอมาคือคุณแม่ คนที่มิ้วกี้ขอบคุณทุกครั้งที่มีโอกาส และเป็นคนที่มิ้วกี้พูดเสมอว่าทำให้มิ้วกี้ได้เป็นแม่ที่ดีที่สุดในเวอร์ชั่นของตัวเอง
“มิ้วกี้กลับมาทำงานหลังคลอดน้องกาเนสได้ 6 เดือน แล้วแม่จะเป็นคนดูแลน้องกาเนสเป็นหลัก นอกจากเลี้ยงเราในฐานะลูก เขาก็สอนให้เราเป็นแม่ไปด้วย”
คุณแม่เลี้ยงมิ้วกี้มาแบบค่อนข้างเข้มงวดแบบที่มิ้วกี้ในวัยเด็กไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อโตมาเป็นแม่ มิ้วกี้เข้าใจว่าความเป็นห่วงของแม่เป็นเรื่องหนักหนาทางจิตใจ การต้องเลี้ยงลูกสาวในวันที่สังคมมีกรอบความเป็นความเป็นผู้หญิงไว้แคบ ๆ ทำให้แม่เป็นห่วงทั้งความปลอดภัย และสายตาที่สังคมมองมาที่ลูกสาวเสมอ แต่มิ้วกี้รู้ดีว่าตัวเองโตมาเป็นลูกสาวในแบบที่แม่ตั้งใจ และพัฒนาต่อมาเป็นมิ้วกี้คนที่ตัวเองภูมิใจ
“มิ้วกี้คิดว่าแม่ที่ดีคือแม่ที่ให้ความรักที่มั่นคงกับลูก เหมือนที่คุณแม่มิ้วกี้ทำมาตลอด มิ้วกี้รับรู้ได้เสมอเลยว่าต่อให้ไม่ว่าใครในโลกจะเกลียดมิ้วกี้
มิ้วกี้จะกลับบ้านมาเจอคุณแม่ที่ซัพพอร์ตเสมอ แล้วพอเราได้รับความรักจากแม่ เรารู้ว่าเราเองก็เป็นแม่ที่ดีได้”
Milky Praiya as #Breadwinner
ชื่อของมิ้วกี้ปรากฎบ่อยครั้งในโซเชียลมีเดีย ในข่าวบันเทิงเรื่องเดตบ้าง เรื่องแฟชั่นบ้าง คนที่ติดตามรู้ดีว่ามิ้วกี้มีหลายบทบาท เราคุยกับมิ้วกี้ต่อว่ามิ้วกี้ดูเหมือนจะทำงานตลอดเวลา และมีโปรเจกต์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ อะไรทำให้มิ้วกี้สนุกกับการทำงานและมี ‘แพชชั่นโปรเจกต์’ เกิดขึ้นแทบจะทุกไตรมาส คำตอบของมิ้วกี้เรียบง่ายว่าเพราะต้องหาเงิน
“มิ้วกี้ต้องดูแลครอบครัว ตั้งแต่คุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว รวมถึงพนักงานในออฟฟิศ มันก็เลยทำให้เราทำงานตลอดเวลา เพราะว่ามีอีกหลายชีวิตที่เราต้องดูแล”
มิ้วกี้เล่าต่อว่าตัวเองเป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็มีความสุขดีที่ได้รับบทบาทนี้ มิ้วกี้ชอบการเป็นผู้นำ ชอบตัดสินใจ และการได้สัมภาษณ์ครั้งนี้ก็ทำให้เราเห็นชัดว่ามิ้วกี้เป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยพลังและความเป็นมืออาชีพ แต่นี่กลับไม่ใช่บทบาทที่สังคมพูดถึงมิ้วกี้บ่อยนัก และคำอธิบายปรากฎการณ์นี้คงไม่ไกลไปจากการที่สังคมมีภาพจำที่แสนจำกัดให้กับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวย ๆ ที่สังคมแปะป้ายว่าเป็นคนแซ่บ ที่แม้มิ้วกี้จะยืนยันแบบขำ ๆ ว่าก็แซ่บจริง แต่ผู้หญิงหนึ่งคนมีเรื่องราวมากกว่านั้น มากกว่าการเป็นคนที่ผ่านการหย่าร้าง มากกว่าเป็นพาดหัวในข่าวบันเทิง
Milky Praiya as #RoleModel
ข่าวการหย่าและชีวิตการเดตของมิ้วกี้อยู่บนพื้นที่สาธารณะ และแน่นอนว่าเต็มไปด้วยการแสดงความคิดเห็น แต่มิ้วกี้เล่าว่าความเห็นที่ด่าทอไม่ได้กระทบจิตใจมิ้วกี้มากนัก แต่เป็นการส่งแรงใจและการให้กำลังใจต่างหากที่สำคัญที่มิ้วกี้รู้สึกขอบคุณเสมอ นอกจากนี้ยังอยากส่งกำลังใจให้หลายคนที่เคยส่งคอมเมนต์มาปรึกษา เพราะสำหรับผู้หญิงและแม่หลายคน การหย่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวข้าม และยิ่งยากไปอีกเมื่อสังคมพยายามบอกว่าการแต่งงานคือการเริ่มต้น และการหย่าร้างคือจุดจบ
“มิวกี้มองว่าการหย่าร้างหรือการเลิกลาไม่ใช่การสูญเสียและพ่ายแพ้ แล้วชีวิตนี้จะจบ เรายังต้องเดินหน้าต่อไปมิวกี้ยังมีความฝันอีกมากที่อยากทำ หลายที่ที่อยากไปเที่ยว
มีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำและต้องทำ”
เราคุยต่อถึงประเด็นไวรัลอย่าง #มิ้วกี้ชอบผู้หญิง ที่กลายเป็นเทรนด์การแซวทั้งมิ้วกี้เอง และกลายเป็นแผ่นเสียงฮิตใน Tiktok ที่ชาวเน็ตเอาไปแซวเพื่อน ๆ อยู่ช่วงหนึ่ง มิ้วกี้ตอบสั้น ๆ และชิล ๆ ว่า “มิ้วกี้เคยคุยกับผู้หญิงมาก่อนหน้านี้แล้ว” มิ้วกี้คิดว่าการคบกับผู้หญิงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่สังคมจะแตกตื่น และดีใจที่เป็นเช่นนั้น มิ้วกี้เสริมว่าได้ถามลูกชายว่าถ้าแม่มีแฟนเป็นผู้หญิงน้องกาเนสจะติดไหม และได้คำตอบแสนชื่นใจว่า
“ถ้าหม่ามี้ชอบใครแล้วเขาดีกับหม่ามี้ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
#MilkyPraiya #Motherhood #Singlemother
Content by Kantamas P.
Graphic by Kasidit Taranabhaiboon
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
