สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ได้ทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 23 กรกฎาคมเป็นต้นมา จนกระทั่งในวันนี้ (24 ก.ค) มีการใช้อาวุธสงครามและมีรายงานประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้แถลงการณ์ถึงการยึดมั่นในหลักการการพูดคุยตามวิธีทางการทูต เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย และชี้ว่ากำลังดำเนินการเต็มที่เพื่อนำความสงบกลับสู่ประชาชน
#เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา – ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อที่นำมาสู่การใช้อาวุธสงคราม ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่บาดเจ็บและเสียชีวิต
ความไม่สงบระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในปี 2568 เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในระยะแรกเป็นเพียงความเคลื่อนไหวที่ยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เป็นครั้งแรกที่เริ่มเกิดการปะทะกันอย่างชัดเจน นำไปสู่การเจรจาทวิภาคีในเบื้องต้น ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดมากขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา มีความพยายามจากรัฐบาลในการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงและลดแรงปะทะ ท่ามกลางเสียงค้านจากโซเชียลมีเดียที่พยายามปลุกปั่นกระแสความรุนแรงและเกลียดชัง การรายงานข่าวและเพจดังหลายเพจไม่เห็นด้วยกับการเจรจา ในขณะที่ประชาชนบางส่วนพยายามสนับสนุนท่าทีในการพยายามรักษาความสงบ และล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (24 กรกฎาคม) มีการใช้อาวุธสงครามในบริเวณชายแดนของประเทศไทย ทำให้เกิดการตอบโต้ระหว่างสองฝ่ายจนนำไปสู่การปะทะกัน และประชาชนในพื้นที่ต้องทำการอพยพ
#สันติสู่ชายแดน – การเรียกร้องของภาคประชาชนถึงการยุติสงครามและความรุนแรง
จากภาวะความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาหลายเดือนที่ผ่านมา มีการเคลื่อนไหวจากประชาชน และองค์กร ในการแสดงจุดยืนในการต่อต้านสงครามและความรุนแรง มีการขอรายชื่อเพื่อร่วมลงนาม เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการยั่วยุ และหันมาใช้การเจรจาอย่างโปร่งใส เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ เนื่องจากทางออกของปัญหานี้ต้องไม่ใช่อาวุธเป็นการตอบโต้ อย่างไรก็ตามในโซเชียลมีเดียยังมีการส่งต่อข้อความปลุกปั่นกระแสความเกลียดชังต่อเพื่อนบ้าน เรียกร้องความรุนแรงทางทหาร ทั้งโดยตรงและแอบแฝง ไม่ว่าจะเป็นสื่อ องค์กรหรือประชาชน โดยอ้างว่าการใช้ความรุนแรงตอบโต้กลับคือทางออกของสถานการณ์ความขัดแย้ง
ท่ามกลางการโต้เถียงในโซเชียลมีเดีย มีภาพข่าวและเสียงจากประชาชนในพื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงความตึงเครียดและกังวลในการใช้ชีวิตประจำวัน ภาพเด็กนักเรียนซ้อมอพยพ ญาติผู้ป่วยติดเตียงเตรียมอุปกรณ์ขนย้าย ตอกย้ำว่ามีผู้คนจริงที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงแม้มีฝั่งที่เห็นว่านี่เป็นเพียงการปลุกปั่นยั่วยุออนไลน์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ยิ่งทำให้ได้เห็นแล้วว่าผู้เดือดร้อนคือประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและผู้สูงอายุ ตามรายงานล่าสุดระบุว่า ฝั่งไทยมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 ราย และเสียชีวิตแล้ว 12 ราย ขณะที่ในสื่อไทยยังไม่มีการการรายงานความเสียหายต่อประชาชนกัมพูชา
ปัจจุบัน สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชายังคงน่าเป็นห่วง ประชาชนหลายคนต้องอพยพออกจากพื้นที่และบางส่วนต้องคอยเฝ้าระวังจากแถลงการณ์ของหน่วยงานภาครัฐเป็นระยะ ท่ามกลางความไม่สงบนี้ ผู้คนในพื้นที่ได้ใช้โซเชียลมีเดียรายงานเหตุการณ์จากพื้นที่จริง ซึ่งทำให้เห็นถึงภาพความตึงเครียด ภาวะหวาดกลัวและเสียขวัญจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นของคนในพื้นที่บริเวณชายแดน
#ไทยกัมพูชา #NoWarThaiCambodia #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก
อ้างอิง
SCTH: http://bit.ly/4m4ky7W
Thalugazzz: http://bit.ly/4m9aJ8P
Ingshin: http://bit.ly/3TZ9YTM
กระทรวงสาธารณสุข: http://bit.ly/4lMu8wB
.
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”