เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมาสาธารณสุขเผยว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงอยู่ในขั้นตอนเตรียมทำบันทึกความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและบริษัทเอกชนที่มีความเสี่ยง เพื่อแจกถุงยางอนามัยและให้ความรู้ต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อ HIV ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนว่ามีการตรวจพบมากขึ้น และการตรวจหาเชื้อเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เนื่องจากปัจจุบันมีสถานบริการทางสุข4าพขนาดเล็ก เช่น คลินิกที่มีบริการให้ตรวจมากขึ้น นอกจากนี้ประชาชนบางส่วนยังตรวจพบจากการใช้ชุดตรวจแบบตรวจเองที่บ้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการของคลินิคนิรนาม และโรงพยาบาลขนาดใหญ่จำนวนหลายแห่ง
#สิทธิการรักษาพยาบาลของผู้อยู่ร่วมกับHIV – ผู้อยู่ร่วมกับ HIV สามารถเข้ารับการรักษาและดูแลสุขภาพตามอาการได้โดยใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ ‘กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ’
สิทธิประโยชน์บริการดูแลผู้อยู่ที่ครอบคลุมประชาชนทุกสิทธิตั้งแต่บริการให้คำปรึกษาและการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ บริการยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (ยา PrEP) บริการป้องกันการติดเชื้อหลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (ยา PEP) บริการให้คำปรึกษาและการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ บริการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มารับบริการติดตามการรักษาที่หน่วยบริการ บริการถุงยางอนามัยสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการให้คำปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจและกลุ่มผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มารับบริการติดตามการรักษาที่หน่วยบริการ และบริการตรวจคัดกรองและตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซีในผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ รวมถึงผู้ที่ใช้สารเสพติดด้วยวิธีฉีดที่มารับบริการตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ
#ข้อมูลและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับHIV – ผู้อยู่ร่วมกับ HIV สามารารถใช้ชีวิตตามปกติสุขได้เมื่อได้รับการดูแลที่เหมาะสม
HIV (เฮชไอวี) คือเชื้อไวรัสที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง หากไม่ได้รับการรักษา อาจพัฒนาไปสู่ภาวะที่เรียกว่า AIDS (เอดส์) หรือกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่อง และปัจจุบัน HIV ไม่ใช่โรครักษาไม่หายอย่างที่หลายคนเข้าใจ แม้ยังไม่มียาที่กำจัดไวรัสออกจากร่างกายได้โดยสิ้นเชิง แต่ควบคุมเชื้อได้ด้วยยาต้านไวรัส (ART) ที่ช่วยให้ระดับไวรัสในร่างกายต่ำจนตรวจไม่พบ หรือที่เรียกกันว่า U=U (Undetectable = Untransmittable) เมื่อผู้ติดเชื้อได้รับยาจนไวรัสอยู่ในระดับที่ตรวจไม่พบ ก็จะไม่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีงาน มีความรัก มีครอบครัว และมีลูกที่ปลอดเชื้อได้เช่นกัน
#HIV #HIVTest #LivibfwithHIV #สปสช
Content by Kantmas P, kulkul
Graphic by frogman
อ้างอิง
Hfocus: https://bit.ly/45YTYZ9
Khaosod: https://bit.ly/3U4uhyY
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”