ชวนชมการแสดงเพื่อเฉลิมฉลองการมีอยู่ของคนข้ามเพศที่จะไม่มีวันหายไป
ด้วยความอคติและเกลียดชัง (With Pessimistic and Hateful)
ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร BACC 29 – 31 สิงหาคม 2025
ด้วยความอคติและเกลียดชัง คือการแสดงที่จะมีคำตอบว่าหลายคำถามที่สังคมมักจะมีต่อกะเทยทั้ง “ทำไมถึงเป็นกะเทย ทำไมถึงต้องเกรี้ยวกราด ทำไมถึงต้องอยากมีหน้าอก ทำไมต้องผ่าตัด ทำไมถึงเรียกร้องอะไรเยอะแยะ” ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีคำถามหรือกลุ่มคนที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเห็นคำถามเหล่านี้ การแสดงนี้มีคำตอบ คำถามและความบันเทิงต่อยอดให้คุณได้ของขวัญกลับไปตกตะกอนอย่างแน่นอนแล้วคุณจะเดินออกจากโรงละครด้วยเสียงเพลง เกลียดชัง เกลียดชังติดหูไปอย่างแน่นอน
นี่คือแสดงที่ได้นำเสนอละครเวทีไว้ด้วยกัน Text-Based, Documentary และ Musical โดยเล่าผ่านการสำรวจบาดแผลส่วนตัว ประวัติศาสตร์ของทรานส์ที่ไม่มีในแบบเรียน และเสียงเพลงเพื่อเรียกร้อง โดย ‘มิสโอ๊ต (ปฏิพล) – Miss Theatre’ ศิลปินเธียเตอร์เควียร์ที่ใช้ศิลปะการแสดงตั้งคำถามต่อสังคม
#บันทึกประวัติศาสตร์คนข้ามเพศในไทย – ในการแสดงนี้มีการสำรวจประวัติศาสตร์ของคำว่ากะเทยและคนข้ามเพศในไทย ทั้งความก้าวหน้าสิทธิของคนข้ามเพศ ประวัติศาสตร์ความเคลื่อนไหวของชาวเควียร์ LGBTQ+ ที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ทั้งการก่อตั้งมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย เหตุการณ์เชียงใหม่ไพรด์ การจัดไพรด์ที่สำเร็จในประเทศไทย พร้อมทั้งนำเสนอการปรากฏตัวตัวของคนข้ามเพศที่มีมาตั้งแต่อดีตที่ ช่วยยืนยันว่าคนข้ามเพศมีอยู่เสมอและจะมีอยู่ตลอดไป
#การให้ความหมายใหม่ของคำว่าอคติและเกลียดชัง – ในการแสดงนี้ไม่ได้เป็นการแสดงที่มีเพียงอารมณ์ของความโกรธหรือเกลียดชังแต่มันมีทุกอารมณ์ ทุกรสชาติที่ถูกถ่ายทอดผ่านการแสดง บทเพลง การร้องสดที่หลากหลายอารมณ์ ในห้องชมรอบสื่อมีทั้งเสียงหัวเราะ เสียงเชียร์ และน้ำตาในบางซีน การแสดงนี้ใช้ระยะเวลาทั้งหมดราวๆ 3 ชั่วโมงในการพาผู้ชมเดินทางไปสำรวจความหมายใหม่ๆ ของคำว่าอคติ และเกลียดชัง ว่ามันสามารถแปรเปลี่ยนมาเป็นพลังในการมีชีวิต ยืนหยัดถึงอำนาจในตนเองและเรียกอำนาจในการเล่าเรื่องของคนข้ามเพศกลับมาที่คนข้ามเพศเอง ไม่ใช่ให้คนต่างเพศหรือคนอื่นนำชีวิตคนข้ามเพศไปเล่าและกอบโกยผลประโยชน์จากน้ำเสียงคนข้ามเพศ ในการแสดงนี้ผู้ชมจะได้พบมิติใหม่ๆ ของคำว่าด้วยอคติและเกลียดชัง
#สารคดีถ่ายทอดช่วงเวลาวัยเด็กของคนข้ามเพศ – ในการแสดงนี้จะมีสารคดีที่แสดงใหม่ที่นำเหตุการณ์ในวัยเด็กของศิลปินมาถ่ายทอดใหม่โดยนักแสดงที่รับบทเป็นบุคคลในครอบครัวของมิสโอ๊ตโดยนำเสนอเหตุการณ์ การถูกถามว่าเป็นตุ๊ด เป็นกะเทยหรือเปล่า ไปจนถึงเหตุการณ์ความรุนแรง การถูกเลือกปฏิบัติในอดีตที่เป็นภาพสะท้อนของสังคมไทยในอดีตที่ไม่ได้มีความเข้าอกเข้าใจคนข้ามเพศ และ หลังจากสารคดีจบลงก็มีบทเพลงทรงพลังจากศิลปินที่เป็นการเรียกพลังคืนจากผู้กระทำความรุนแรงมาว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ให้พวกเขาอกแตกกันไปข้าง ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งก็จะลุกด้วยไฟแห่งความรักในการมีชีวิต
#กว่าจะมาเป็นคนที่ชอบในร่างกายในวันนี้มีแม่ที่อยู่เบื้องหลัง – ในช่วงท้ายของการแสดงนี้มีการสำรวจถึงความสัมพันธ์ของศิลปินและแม่ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านบทสนทนา ภาพพายุ ธรรมชาติที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสั่นสะเทือนถึงหัวใจได้อย่างงดงาม และ มีข้อความที่ฝากถึงคนข้ามเพศ สังคมว่าการลุกขึ้นมารักร่างกายตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ การมองเห็นตัวเองงดงามในกระจก การเปิดเผยถึงหน้าอกคือการใช้อำนาจในการแสดงเรือนร่างว่า นี่คือฉัน ฉันงดงาม หากจะอคติก็อกแตกไป นี่คือตัวฉัน ฉันชอบตัวเองที่ได้เป็นแบบนี้สักที การได้เห็นร่างกายที่ตรงกับสภาพจิตใจ และ การได้เป็นตัวเอง ได้ถูกมองเห็นจากคนที่รักก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้คนข้ามเพศรู้สึกไม่โดดเดี่ยว รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง
ท้ายที่สุดแล้วนี่คือการแสดงที่มีข้อความไว้ว่า “นี่คือการแสดงที่อุทิศให้คนข้ามเพศ” และการแสดงนี้บันทึก จารึกการมีอยู่ของคนข้ามเพศในไทย เป็นการแสดงของคนข้ามเพศที่มาเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองได้และท้าทายขนบของการแสดงอันดีงามด้วยการเปิดพื้นที่ว่า ทุกคนมีพลังในการเป็นเจ้าของเรื่องเล่าของชีวิตตนเองและมีอำนาจในการเป็นตัวของตัวเองเสมอ
การแสดงนี้คือการแบ่งปันอำนาจว่าทุกคนเองก็มีอำนาจในการเป็นเจ้าของชีวิตตนเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนกลุ่มที่ไม่ตรงเพศไบนารี่ เป็นคนที่มีความหลากหลาย หรือใครก็ตาม คุณมีสิทธิ คุณคู่ควรที่จะได้มีอำนาจในชีวิตตัวเอง มีชีวิตที่ปลอดภัยและจะไม่มีวันถูกทำให้หายไป
การแสดงภาษาไทย พร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ
จองบัตรที่ https://www.facebook.com/MissTheatre
#ด้วยความอคติและเกลียดชัง #WithPessimisticAndHateful #TransRights #Transphobia
Content by ปัทม์
Graphic by Kasidit Taranabhaiboon
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”