กระบวนการข้ามเพศที่แฝงอันตรายและอาจส่งผลกระทบไปตลอดชีวิต
ปัจจุบันคนข้ามเพศสามารถเข้ารับฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศได้โดยใช้สิทธิ สปสช. 30 บาทรักษาทุกที่ และการผ่าตัดยืนยันเพศก็อยู่ในสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2561 แต่ถึงอย่างนั้น การเข้าถึงกระบวนการข้ามเพศยังคงมีความยากลำบากและซับซ้อน เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และยังมีภาวะทางจิตใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่อาจเป็นอุปสรรคในการข้ามเพศ คนข้ามเพศหลายคนใช้เงินไประหว่างทางของการเก็บหอมรอมริบเพื่อรับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลหน้า ผม ผิว รวมไปถึงการฉีดหน้า ฉีดผิว ทั้งหมดนี้เพื่อให้ใกล้ความเป็นตัวเองได้มากที่สุด
ประสบการณ์ที่นัท นิสามณีเล่าถึงการใช้บริการหมอกระเป๋าจึงเป็นประสบการณ์ร่วมของคนข้ามเพศหลายคนที่เคยผ่านหัตถารใกล้มือที่เข้าถึงได้และ ‘จำเป็น’ ในเวลานั้น ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตของคนข้ามเพศ สะท้อนว่าการเข้าถึงบริการจากแพทย์ที่ปลอดภัย จึงเป็นเรื่องสุขภาวะและชีวิตความเป็นอยู่ มากกว่าการถูกมองว่าเป็นเพื่อความสวยงาม
วันนี้ (26 สิงหาคม) นัท นิสามณี เผยแพร่ผ่านเพจสะบัดแปรงว่าได้เข้ารับการผ่าตัดด่วนช่วงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากพบการอักเสบบริเวณแก้มทั้งสองข้างและเสี่ยงติดเชื้อที่อันตรายถึงชีวิต โดยในวิดีโอ ‘อุทาหรณ์หน้าพังเพราะหมอกระเป๋า’ ตั้งใจเตือนให้ทุกคนเลือกการทำหัตถการ ฉีดหน้าต่าง ๆ กับแพทย์และสถานบริการที่ปลอดภัย หลังการเล่าประสบการณ์นี้มีทั้งผู้ที่คอมเมนต์ให้กำลังใจ ตั้งคำถามถึงสาเหตุที่นัทและคนอื่น ๆ เลือกใช้บริการหมอกระเป๋า และมีบางส่วนเล่าประสบการณ์ติดเชื้อจากการทำหัตถการเช่นกัน บทสนทนาของผู้มีประสบการณ์สะท้อนการเลือกใช้บริการหมอกระเป๋าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเข้าถึงง่าย และสำหรับคนข้ามเพศหลายคน การทำหัตถการอย่างการฉีดหน้าก็เป็นส่วนหนึ่งของการข้ามเพศ
#การฉีดหน้าในฐานะหัตถการเพื่อการข้ามเพศ – หมอกระเป๋าเป็นหัตถการที่เข้าถึงง่ายกว่าการฉีดหน้าในราคาคลินิก และเป็นบริการที่คนข้ามเพศหลายคนเลือกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการข้ามเพศเพื่อให้ให้ความสวย ความละมุน และความเป็นหญิง ในขณะที่ผู้ชายก็ทำให้หน้าคมสมเป็นชาย
ภายหลังการเล่าอุทาหรณ์ของนัท นิสามณี ความคิดเห็นบางส่วนในโซเชียลมีเดียตั้งคำถามถึง ‘ความจำเป็น’ ในการทำหัตถการเพื่อ ‘ความงาม’ ในขณะที่ชุมชนผู้หญิงข้ามเพศสะท้อนเรื่องนี้กว่าฉีดหน้าเป็นมากกว่าการทำเพื่อให้สวย แต่หลายครั้งเป็นส่วนหนึ่งของการข้ามเพศ หรือชัดไปกว่านั้นคือการทำให้เป็นหญิงตามมาตรวัดของสังคม การฉีดหน้าให้ละมุน ลดความคม ลดความดุ เพื่อให้ ‘ผ่าน’ (Passing) มาตรวัดความเป็นหญิง ในขณะที่ผู้ชายข้ามเพศก็มีการใช้โบท็อกและฟิลเลอร์ในการทำให้หน้าคม ดุ ดูเป็นชายตามภาพจำของสังคมเช่นกัน
การทำหัตถการบนใบหน้าจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของการยืนยันทางเพศ (Gender Affirmation) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนข้ามเพศที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการผ่าตัดข้ามเพศอย่างการเสริมหรือตัดหน้าอก หรือการผ่าตัดอวัยวะเพศได้ เนื่องจากการผ่าตัดมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่การใช้ฮอร์โมน การปรึกษาแพทย์ ซึ่งเป็นรายจ่ายเริ่มต้นที่หลักหมื่นและอาจจบที่หลักล้าน การเข้าถึงหัตการใกล้มือจึงกลายเป็นหนึ่งในวิธีรับมือกับความทุกข์ใจในเพศสภาพ (Gender Dysphoria) รูปแบบหนึ่ง โดยการเปลี่ยนแปลงส่วนที่ทำได้ และทำให้เข้าใกล้ความเป็นหญิง ชาย ตามภาพจำสังคมมากขึ้น
#GenderAffirmation #GenderDysphoria #Transition
Content by Kantamas P.
Graphic by Kasidit Taranabhaiboon
อ้างอิง
JCAD: https://bit.ly/4n0s2Jt
PMC: https://bit.ly/4oYHub6
สะบัดแปรง: https://bit.ly/4oSIjlH
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
