Spectrum

ลาคลอด 120 วัน เพียงพอหรือไม่ ? สภาฯ อนุมัติแก้ไข พรบ.คุ้มครองแรงงานฯ เพิ่มวันลาคลอดจากเดิม 98 วัน ให้คู่สมรสลาได้ 15 วัน ขณะที่แรงงานเรียกร้องให้เพิ่มเป็น 180 วัน

3 นาที

6

Share to

กรกฎาคม 17, 2025

3 นาที

6

กรกฎาคม 17, 2025

Share to

เมื่อ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐสภามีมติเห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน อนุญาตให้ หญิงตั้งครรภ์สามารถลาคลอดได้สูงสุดถึง 120 วัน และคู่สมรสสามารถลาหยุดเพื่อช่วยดูแลบุตรหลังคลอดได้ อีก 15 วัน โดยในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน

เมื่อวานนี้ (16 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 3 ในสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 ซึ่งได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่…) พ.ศ. …. ในวาระที่ 2 และ 3 โดยร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นฉบับที่คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ปรับปรุงเพิ่มเติมจากการพิจารณาในสมัยประชุมที่แล้ว หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาทบทวนเนื้อหาในวาระที่ 2 จนครบถ้วนทุกมาตราแล้ว ที่ประชุมจึงได้ดำเนินการลงมติในวาระที่ 3 ผลปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบกับร่างกฎหมายดังกล่าว และหลังจากนี้ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมายต่อไป

#เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของแม่และเด็ก – การขยายวันลาคลอดจากเดิม 98 วัน เป็น 120 วัน เพื่อให้แม่สามารถใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกาย ดูแลสุขภาพจิต และเลี้ยงดูบุตรในช่วงแรกของชีวิตได้อย่างเต็มที่

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับนี้ คือการเสนอให้ขยายวันลาคลอดจากเดิม 98 วัน เป็น 120 วัน พร้อมได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน เพื่อให้แรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์สามารถใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกาย ดูแลสุขภาพจิต และเลี้ยงดูบุตรในช่วงแรกของชีวิตได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งยังได้ขยายสิทธิการลาเพิ่มเติม ในกรณีที่บุตรมีภาวะผิดปกติทางสุขภาพ เช่น การเจ็บป่วยเรื้อรัง ความพิการ หรือมีความต้องการดูแลเป็นพิเศษ การปรับแก้ครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อการส่งเสริมการมีบุตร และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของแม่และเด็ก ถือเป็นการสอดรับกับนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมประชากร และแก้ไขปัญหาอัตราการเกิดที่ต่ำลงในประเทศ

นอกจากนั้น อีกหนึ่งสาระสำคัญคือการให้สิทธิแก่ลูกจ้างที่เป็นคู่สมรสของผู้คลอดบุตร สามารถขอลาหยุดเพื่อช่วยดูแลคู่สมรสและบุตรในช่วงหลังคลอดได้สูงสุด 15 วัน โดยในช่วงเวลานี้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกฎหมายแรงงานไทยที่มีการรับรองสิทธิของคู่สมรสในการมีบทบาทร่วมในการดูแลลูกอย่างเป็นทางการ

#ลาคลอด180วันยังถูกผลักดัน – ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่และเด็ก และช่วยส่งเสริมเรื่องสถาบันครอบครัวให้มั่นคงในระยะยาว

‘ณัฏฐา มหัทธนา’ สมาชิกกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้อธิบายเหตุผลที่สิทธิลาคลอดไม่สามารถเพิ่มได้ตามเป้าหมายเดิม 180 วัน เนื่องจาก ‘ความสามารถในการจ่าย’ และไม่ต้องการให้มีการเลือกปฏิบัติต่อลูกจ้างหญิง จึงพิจารณาวันลาคลอดได้เพียง 120 วัน ทำให้หลังจากการประชุมสภาฯ ครั้งนี้ มูลนิธิทำทางและเครือข่ายแรงงานยังยึดมั่นในการผลักดันการลาคลอด 180 วันให้ได้เช่นเดิม เพื่อให้สิทธิการตั้งครรภ์ของแรงงานผู้หญิงได้รับความเท่าเทียม และยังติงถึงการที่ส.ส. หลายคนยังใช้เหตุผลว่าการเพิ่มวันลาคลอด ‘จะลดการทำแท้ง’ ซึ่งสะท้อนความไม่เข้าใจถึงสิทธิของการตั้งครรภ์ที่แท้จริง และยังถือเป็นการตีตราคนที่เลือกทำแท้งอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม UNICEF และองค์กรอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าการให้แม่ลาคลอด 180 วัน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่และเด็ก ตั้งแต่การฟื้นตัวหลังลาคลอด ป้องกันอาการซึมเศร้าหลังคลอด รวมถึงคุณภาพประชากรในระยะยาว และถือเป็นการส่งเสริมเรื่องสถาบันครอบครัวให้มั่นคง เช่นเดียวกับประเทศต่าง ๆ อย่างสวีเดนและญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นว่าสามารถลาคลอดได้มากกว่า 180 วันและลูกจ้างสามารถได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน ซึ่งหวังว่าประเทศไทย จะสามารถนำวันลาคลอด 180 วันมาใช้ได้จริงในอนาคต

#ParentalLeave #วันลาคลอดเลี้ยงดูบุตร #LabourRight

Content by Pitchaya S.

Graphic by Kasidit Taranabhaiboon

อ้างอิง

Matichon: https://bit.ly/40pQ9bU

คุยกับผู้หญิงที่ทำแท้ง: https://bit.ly/3UfYYBp

ประชาไท: https://bit.ly/4eRFEUB

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl