“ต้องเปลี่ยนความคิดนะ ไม่งั้นก็กลับบ้าน” คือท็อปคอมเมนต์ใต้คลิปวิดีโอที่ช่อง The Voice คัตมาให้เห็นการถาม-ตอบระหว่าง โอ๊ต มณเฑียร ผู้เข้าประกวด The Voice Pride และเบน ชลาทิศ โค้ชที่ถูกกดบล็อกโดยโค้ชธามไท ในบรรดา 100 กว่าคอมเมนต์ต่างมีความคิดเห็นคล้อยไปในทางเดียวกันคือผู้เข้าประกวดคนนี้ช่างเรื่องมาก ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งต้องกระอักกระอ่วน ตกลงต้องการอยู่ร่วมกับสังคมหรือมาหาที่ปลอดภัยให้ตัวเองกันแน่ พร้อมกับชื่นชมการแก้ไขสถานการณ์ของโค้ชเบนชลาทิศที่ตอบคำถามแทนด้วยท่าทีขึงขัง
ชมวิดีโอตัวดังกล่าว https://www.facebook.com/share/v/19cPWu61Gz/
The Voice Pride เป็นรายการ The Voice ซีซั่นแยกที่เกิดมาเพื่อเฉลิมฉลองในเดือนแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Month) ออกอากาศทางช่อง 7 ในเวลาไพรม์ไทม์เช่นเดียวกับทุกซีซั่นที่ผ่านมา ตั้งแต่เปิดตัวรายการนี้ถูกตั้งคำถามเสมอว่าจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์วัดเพศสภาพ ทำไมต้องแยกซีซั่นมาจากคนอื่น ๆ ด้วย แต่ในอีกแง่หนึ่ง การได้มีรายการที่ฉายภาพ LGBTQ+ และถ่ายทอดวัฒนธรรมที่เคยอยู่ในซอกหลืบสังคมบนฟรีทีวีก็เป็นโอกาสที่เมื่อก่อน LGBTQ+ ได้แต่ฝัน
ชุมชน LGBTQ+ เคยพูดเรื่องนี้กันหลายครั้งว่าอย่าไปถามคนว่าเป็นรุกหรือรับ อย่าไปถามใครว่าเป็นเพศอะไรกันแน่ แต่สำหรับคำถามของโอ๊ต มณเฑียร หรือ Mimosa Jazz ที่ต้องการความแน่ใจในเพศสภาพของธามไท มันอาจจะหมายความแค่ว่าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าโค้ชที่มีเพศสภาพเป็นผู้ชายจะเข้าใจความหลากหลายได้จริง ๆ คำถามนี้อาจเข้าใจได้ว่าไม่มีเจตนาดูหมิ่นเหยียดหยามหรือผิดมารยาทอะไร โดยเฉพาะเมื่อโอ๊ต มณเฑียรได้เล่าต่อด้วยว่าเขามีบาดแผลจากชายแท้มากขนาดไหน
#การมีตัวตนอยู่หมายถึงว่าเราต้องยอมรับในสิ่งที่โลกนี้มันมี – คำตอบของโค้ชเบน ชลาทิศ ที่อาจกำลังหมายความว่า LGBTQ+ อย่าเยอะ
ในจังหวะที่ Mimosa Jazz ถาม เบน ชลาทิศที่ได้เข้ามาตอบคำถามแทนก็เริ่มไล่เรียงตั้งแต่วัตถุประสงค์ของรายการที่ต้องการเฉลิมฉลองความหลากหลาย และบอกว่าในการได้รับการยอมรับในโลกใบนี้ แค่ได้ออกมาเปิดตัวให้กับโลกเห็น โลกยอมรับก็พอแล้ว แล้วโลกมันจะเป็นอย่างไรก็ต้องอยู่กับมันไป พร้อมทิ้งท้ายด้วยการรับประกันว่าอะไรที่ผู้เข้าประกวดกลัว จะไม่เกิดขึ้นจากโค้ชธามไทแน่ ๆ
เบน ชลาทิศ ไม่ได้พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา แค่ประโยคจำพวกอย่าเปลี่ยนแปลง อย่าเยอะ อย่ารุกล้ำสิทธิของคนปกติเขา เป็นประโยคที่ชุมชน LGBTQ+ ได้ยินจากทั่วทุกสารทิศมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และเป็นประโยคที่จะมีคนหยิบมาพูดทุกครั้งที่มีการเรียกร้องสิทธิเพื่อความเท่าเทียม ถ้ามีการเรียกร้องฮอร์โมนส์เพื่อคนข้ามเพศ ก็จะมีคอมเมนต์ว่าเยอะสิ่ง ทำไมไม่เอาเงินไปช่วยคนป่วยจริงๆ ถ้ามีการเรียกร้องคำนำหน้าที่สอดคล้องกับเพศสภาพ ก็จะกลายเป็นเรื่องมากไป รุกล้ำสิทธิของผู้หญิง เป็นช่องทางก่ออาชญากรรม เมื่อมีการปิดถนนจัดขบวนไพรด์ ก็กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน แค่เพราะอยากแต่งตัวสวยมาอวดกัน และก่อนที่สมรสเท่าเทียมจะบังคับใช้ กฏหมายฉบับนี้ก็ถูกเฝ้าระวังว่าจะทำให้ระบบครอบครัวจะล่มสลาย ไม่จำเป็นต้องมีกฏหมายก็รักกันได้ไม่ใช่หรอ
การรับมือกับคำถามของผู้เข้าประกวดอาจจะง่ายดายแค่สร้างความมั่นใจให้คนในชุมชน LGBTQ+ ว่าที่นี่ปลอดภัย ไม่มีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ ที่นี่เฉลิมฉลองและมองเห็นทุกตัวตนทุกบาดแผล ไม่อย่างนั้นพื้นที่บนฟรีทีวีนี้อาจเป็นการสร้างภาพจำตายตัว (Stereotype) และกล่อมเกลา LGBTQ+ ให้ทำตัวเชื่อง ๆ ไม่ต้องเรียกร้องอะไร เพราะอาจจะเสียโอกาสอันน้อยนิดไปก็เป็นได้
#TheVoicePride #โอ๊ตมณเฑียร #MimosaJazz #QueerArtist
Content by Ms. Satisfaction
Artwork by frogman
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
