Spectrum

The Office Siren เมื่อกึ่งกลางความออฟไลน์ออนไลน์ผสานเข้ากับจริตกลอกตาหน้านิ่งและชุดทำงาน

3 นาที

6

Share to

มีนาคม 13, 2025

3 นาที

6

มีนาคม 13, 2025

Share to

ในโลกขององค์กร บริษัท และการทำงานไม่เว้นวัน 5 – 6 – 7 วันต่อสัปดาห์ วิถีชีวิตของมนุษย์เงินเดือนเต็มไปด้วยแรงกดดัน ระเบียบ และความเนี้ยบแบบไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายตัวเลข เดดไลน์ กาแฟฟรีที่ไม่อร่อยเท่าไร และปาร์ตี้ส่งท้ายวันอันเหนื่อยล้า ออฟฟิศจึงดูเป็นสถานที่ที่ ‘เวิร์คได้’ แต่ ‘ไม่น่าจะเวิร์ค’ สำหรับการแสวงหาแรงบันดาลใจให้ความคิดสร้างสรรค์และจุดยืนแก่ชนชั้นทางสังคม แต่ในปัจจุบัน ออฟฟิศกำลังกลายเป็นพิมพ์เขียวชิ้นใหม่อันล้ำค่า และวงการแฟชั่นก็ได้โอบรับสิ่งนี้ไว้ด้วยการนำเสนอการแต่งกายสไตล์ที่กล้าจะเย้ยหยันเจ้านายและท้าทายรุ่นพี่ร่วมโต๊ะ

Office Siren ปรากฏขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว จากการจับคำว่า ‘Office’ ห้องทำงานทรงสี่เหลี่ยมบนตึกสูง มาชนกับคำว่า ‘Siren’ ครึ่งคนครึ่งสัตว์น้ำจากปกรณัมกรีก เกิดเป็นคำพยากรณ์เทรนด์แต่งตัวที่หยิบความกล้า ๆ กลัว ๆ ในข้อจำกัดของเครื่องแบบพนักงานมางัดข้อกับความสุภาพเรียบร้อย บ้างก็เรียกง่าย ๆ ว่า Corpcore ซึ่งมี ‘Corp’ ที่ย่อมาจากคำว่า Corporate (บริษัท) ที่แหย่เล่นกับหลักการ 9-to-5 (ทำงาน 9 โมงถึง 5 โมงเย็น) ผนวกกับการจบไปของยุคสมัยโควิด 19 ระบาด ที่ทำให้รูปแบบการทำงานกลายเป็น Hybrid Work (การทำงานแบบผสม) คือมีทั้งวันที่เข้าออฟฟิศและวันที่เข้ามีตจากริมชายหาด นับแต่นั้น ไซเรนแห่งบริษัทจึงถูกดันเข้าสู่สายธารป๊อบคัลเจอร์แบบที่ว่าทุกแบรนด์พากันขนคอลเลคชั่นสูทที่น้อยแต่เนี้ยบ เรียบหรูแต่สู้กับระบบขึ้นมาอยู่บนรันเวย์แฟชั่นวีค และนำพาเทรนด์์นี้ไปสู่ปรากฏการณ์ภาพแทนบนโลกออนไลน์ของหญิงสาว-ชายหนุ่มในชุดทำงาน เสื้อคอปก เบลเซอร์เข้ารูป กระโปรงทรงเอ หรือกางเกงสแล็ก ที่แม้ประนีประนอมกับกฎระเบียบแต่ก็ใส่ไปเหยียบฟลอร์ของเราได้เช่นกัน 

ตลอดปีที่ผ่านมาบนหน้าประวัติศาสตร์วงการบันเทิงเอเชีย ออฟฟิศไซเรนดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว MV เจ้านายคะ – Bowkylion เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีและเด่นหากอยากเข้าใจความเป็นไซเรนของสาวออฟฟิศ และดูเหมือนว่าเทรนด์นี้จะอยู่อีกยาว เพราะ 3 เดือนที่ผ่านมามีทั้ง Oopsy Daisy โดย PP Krit ที่เรียกว่ายกเอาทั้งวัฒนธรรมออฟฟิศมาโชว์ หรือ Earthquake ของ JISOO ที่ชูชีวิตประจำวันของการเป็นสาวออฟฟิศ รวบผม ตาคม และกลัดเข็มเน็กไทด์ DIOR 

วันนี้เส้นทางของปรากฏการณ์นี้จะถูกตีแผ่เพื่อตามหาต้นกำเนิดอันแน่แท้ นับแต่นาทีที่ TikToker สาวได้สรรค์สร้างคำศัพท์ออกมา จนชาวเน็ตพากันขุดหาภาพแทนในสื่อบันเทิงร่วมสมัยอย่าง The Devil Wears Prada และวันนี้ที่ใครต่างก็หยิบยืมมาใช้แสดงความเป็น(อ)มนุษย์ในโลกทุนนิยม

Asia Bieuville 
ตัวต้นคิดผู้มอบชีวิตให้แก่ Office Siren
ที่มีแม่แบบเป็น Gucci’s 1998 Bella Hadid และ Kate Moss

ย้อนกลับไปใน วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน ปี 2023 นักศึกษาแฟชั่นในปารีสนามว่า Asia Bieuville ได้โพสต์วิดีโอวิเคราะห์คาดการณ์เทรนด์แฟชั่นประจำฤดูกาลสำหรับปีถัดไป (2024) ลงในช่อง TikTok @asia.jpg โดยเธอเกริ่นว่า “กันยายนไม่ใช่แค่โมงยามแห่งการเปิดเทอม แต่มันยังเป็นจุดเริ่มต้นแห่งฤดูกาลแฟชั่นด้วย” ก่อนจะเริ่มวิเคราะห์คาดคะเนทิศทางของเทรนด์ที่จะกลับไปสู่การเป็น “สาวจากคลังเสื้อผ้ายุค 90 หรือ ต้นยุค 2000” พร้อมแนบมู้ดบอร์ดที่รวมความเป็น ‘ออฟฟิศไซเรน’ ไว้โดยมีภาพของ Bella Hadid ในชุดรัดรูปเว้าอกกับกระโปรงทูพีซจาก Gucci คอลเลกชั่น Spring/Summer 1998 ปากฉ่ำลิบ จิลเวอรี่หลวมโพรก ถุงเท้าข้อยาวบาง รองเท้าส้นสูงแบบรัดสาย 

เอเชียระบุว่าออฟฟิศไซเรน “เธอมีกลิ่นอายที่หลุดมาจากราวแขวนของ Calvin Klein, Dolce & Gabbana และ Ralph Lauren” เสื้อผ้าต้องเรียบง่าย แต่อย่างอื่นของเธอต้องไม่น้อยหน้า ปากต้องพุ่ง เล็บต้องดุ้ง เครื่องประดับต้องพะรุงพะรังและตะโกนว่านี่คือฉัน! ก่อนจะขึ้นภาพสกรีนช็อตจากคลิปสัมภาษณ์ Kate Moss ในยุค 90 ช่วงต้นของเส้นทางชีวิตในวงการ เพื่อให้เห็นเมคอัพแบบแต่งน้อยแต่แต่งนะ ที่เน้นใช้ลิบขับสีปากสร้างจุดเด่นบนใบหน้า และตอกย้ำว่าออฟฟิศไซเรนคือศักยภาพที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ความธรรมดา

เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวรีดเรียบและกางเกงสแล็กสีดำทรงเนี้ยบ ถูกนำมาตีความใหม่ในกระแส พลิกโฉมต้นตำหรับชุดทำงานด้วยการเติมความเย้ายวนและน่าดึงดูด จนปรากฏอยู่ในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะไฮแฟชั่น ฟาสต์แฟชั่น ศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรี รวมถึงในหมู่อินฟลูเอนเซอร์เจนฯ ซีที่หยิบมาแต่งในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย 

จาก Basic Instincts (1992) 
ถึง The Devil Wears Prada (2006)
นี่คือบรรดาภาพแทนผู้หญิงในชุดพนักงานบริษัท

ชาวเน็ตลงความเห็นให้แคทเธอรีน ทราเมล (Catherine Tramell) จาก Basic Instinct (1992) เป็นตัวตนยุคบุกเบิกก่อนการมีออฟฟิศไซเรน แคทเธอรีนเธอเป็นนักเขียนนิยายแนวลุ้นระทึก เธอจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยา และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างสุดฤทธิ์ เธอตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม เธอเรียกเซ็กซ์ว่า ‘การเย็ด’ (fucking) และมองว่าเซ็กซ์คือเรื่องของความสุข ไม่ใช่ความรัก ซึ่งเป็นทัศนคติที่โดยทั่วไปมักถูกสงวนไว้ให้กับผู้ชาย เธอมีรสนิยมทางเพศที่หลากหลาย ไม่สวมชุดชั้นใน และสนุกกับการมีเพศสัมพันธ์แบบพันธนาการเบา ๆ ทำให้ทีมนักสืบชายผู้รุมสอบสวนต้องตกตะลึง เพราะในยุค 90 ผู้หญิงที่แสดงความต้องการทางเพศมักถูกนำเสนอในฐานะตัวละคร ‘ร้าย’ หรือ ‘อันตราย’ โดยอัตโนมัติ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นภาพจำเหล่านี้ในภาพยนตร์ ที่ต่างก็สะท้อนความกลัวต่อผู้หญิงที่มีอำนาจเหนือร่างกายและความต้องการของตนเอง

หลังจากนั้นก็มี Alex Munday สายลับสาวเอเชียจาก Charlie’s Angles (2000), Lady Deathstrick มิวแทนต์ตัวร้ายจาก X2 (2003) และ Jane Smith นักฆ่าฝีมือฉกาจจาก Mr. & Mrs. Smith (2005) ตัวละครเหล่านี้ล้วนสวยสับ ลึกลับ อันตราย และที่สำคัญที่สุดคือเล่ห์กลมากมายและไม่ขาวใสบริสุทธิ์ พวกเธอคือตัวละครสีเทาผู้นำเอาเสน่ห์และไหวพริบไปเป็นอำนาจต่อรองในภารกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายเฉกเช่นกับตัวตนของไซเรนที่ใช้เสียงร้องหลอกล่อผู้ชายในปกรณัมกรีก แต่การมาถึงของ Andrea Sach และ Serena จาก The Devil Wears Prada (2006) หมุนทวนความฉกาจก้าวร้าวไปสู่การเอ็มพาวเวอร์ผู้หญิงในระบบเศรษฐกิจร่วมสมัย หลังช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปี 1970 ที่ผู้หญิงได้รับโอกาสให้เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ก็ได้มีการกำหนดชุดทำงานที่เหมาะสมอย่างเป็นทางการ ซึ่งริดรอนสิทธิการแสดงออก และเสรีภาพบนเรือนร่างของพวกเธอ ด้วยคำว่า ‘ความเป็นมืออาชีพ’ ที่ผู้ชายเป็นคนขีดเขียน ตัวละคร Andrea และ Serena จึงเปรียบเสมือนสารจากผู้หญิงในองค์กรที่ส่งเสียงว่า สิ่งที่ผู้หญิงสวมใส่ในที่ทำงานไม่ควรถูกใช้เป็นตัวชี้วัดความสามารถ เพราะผู้หญิงที่เป็นมืออาชีพจริงและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ยังคงสามารถแต่งตัวให้ดูดี มีสไตล์ และเปล่งประกายความเป็นเธอได้โดยไม่ลดทอนศักยภาพ

ออฟฟิศไซเรน เป็น อมนุษย์เงินเดือน
เมื่ออัตลักษณ์ไฮบริดมาพร้อมกับการสู้สุดชีวิตในโลกทุนนิยม

ความแตกแตนของออฟฟิศไซเรนจุดประกายประเด็นเกี่ยวกับตัวตนแท้จริงและภาพลักษณ์ผู้หญิงในที่ทำงาน หลายคนเริ่มท้วงทักว่า “พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ทำงานในออฟฟิศจริง ๆ ด้วยซ้ำ” หลายคนเป็นนางแบบ ดาราดัง ศิลปิน และอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่รู้หรอกว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนเป็นเช่นไร ด้วยเหตุนี้จึงได้เกิดเทรนด์ออฟฟิศไซเรนรูปแบบใหม่ เป็นไอคอนสาวออฟฟิศแห่งยุค WFH ที่เวิร์คไลฟ์ไม่บาลานซ์ เพราะรับบทเทพีแห่ง Zoom, Google Meets และ Microsoft Teams ผู้หาญกล้าจะรับสายวิดีโอสนทนางานที่ริมชายฝั่ง ขณะที่คอมยังเปียกชุ่มด้วยน้ำทะเล แม้จะดูออกง่ายดายว่าเป็นคอนเทนต์ที่สร้างและไม่ใช่ร่างที่เป็นอยู่จริง แต่นี่ถือเป็นการขับเคลื่อนบนโลกออนไลน์เพื่อหยอกล้อเสียดสีการทำงานแบบไฮบริด เวิร์คฟรอมโฮม และวิถีชีวิตตลกร้ายของสาว (นอก) ออฟฟิศ ที่ไม่มีวันได้หยุด ‘เวิร์ค’ จริง ๆ จนต้องเอียงตราชั่งไปยังฝั่งการงานมากกว่าการพักผ่อน หากมองออฟฟิศไซเรนตัวนี้ตามนิยามปกรณัมกรีก จุดเชื่อมโยงของเธอในฐานะสัญลักษณ์ของความเป็นลูกผสมไม่ใช่ครึ่งคนครึ่งสัตว์อีกต่อไป แต่คือครึ่งออนไลน์ครึ่งออฟไลน์ แบบใหม่แบบสอดรับกับโลกการทำงานที่ยืดหยุ่นเกินไป และอิสรภาพที่อยู่ตรงหน้าแต่คว้าไว้ไม่ได้เสียที เพราะเจ้านายและรุ่นพี่กำลังรอให้รับสายอยู่ในมีตติ้งประจำวัน เกิดเป็นชีวิตก้ำกึ่งระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวที่คลุมเครือจนยากจะแยกออกจากกัน โลกทุนนิยมนั้นยังคงพันธนาการไซเรนคนนี้ไว้บนโต๊ะทำงานแบบใหม่ที่ประกอบขึ้นจากทรายและน้ำในมหาสมุทร

#Spectrogram #OfficeSiren #Corpcore #HybridWork

Content by kulkul

Graphic by Frogman

อ้างอิง 

Agnieszka Wodzińska: https://bit.ly/4irQx0p

asias.jpg: https://bit.ly/3DQ1iul

independent: https://bit.ly/4huxCkg

lofficieulusa: https://bit.ly/4ispIZW

medium: https://bit.ly/3XSdG3R

sartorialmagazine: https://bit.ly/3DQ1utz

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl