“แค่ไม่เอ่ยชื่อลิซ่าก็เป็นการเหยียดแล้วหรอ?”
“คิดแทนลิซ่าซะแล้ว”
“เดี๋ยวนี้ลิซ่าไประดับโลกแล้วเขาไม่สนใจเรื่องนี้หรอก”
“ลิลลี่ไทยเขียนบทให้เกาหลีเกลียดลิซ่าไปหมดละ”
“ด่าเกาหลีเหยียดไทย แต่คนไทยจะเหยียดเกาหลีทั้ง ๆ ที่เค้าไม่รู้เรื่องก็ได้หรอ”
ในรายการ The Puppy Interview ที่บงจุนโฮให้สัมภาษณ์ มีคำถามหนึ่งที่ถามถึง BLACKPINK ว่าใครคือสมาชิกคนโปรดในวง และบงจุนโฮได้ตอบว่า “โรเซ่ จีซู เจนนี่ ทุกคนนั่นแหละ” (Rose, Jisoo, Jennie. Everyone.) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังลิซ่าขึ้นแสดงที่เวทีออสการ์ 2025 ได้ไม่กี่วัน เมื่อเรื่องนี้แพร่กระจายไปเรื่อย ๆ การเลือกปฏิบัติของเกาหลีใต้ต่อลิซ่าจึงได้ถูกรวบรวมเป็นข้อ ๆ และเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เหตุการณ์ที่ลิซ่าเล่าถึง ‘ยองจี’ พิธีกรของรายการที่เคยพบกับลิซ่าในงานหนึ่ง และวันนั้นยองจีเมินลิซ่า แม้ลิซ่าจะตั้งใจเข้าไปทักทายและบอกว่าเป็นแฟนคลับ
หลังเริ่มต้นอาชีพในระดับโลกและก่อตั้งค่าย LLOUD เพื่อดูแลตัวเอง อคติทางเชื้อชาติในเกาหลีใต้ต่อลิซ่าก็ดูจะรุนแรงยิ่งขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เช่น หลัง The White Lotus ปล่อยภาพทีเซอร์ที่มีลิซ่า คอมเมนต์จากเกาหลีใต้เรียกลิซ่า ‘Thai Monkey’, ‘Thai Lizard’ และแสดงความเหยียดหยามที่ลิซ่าได้รับบทพนักงานโรงแรม เช่นเดียวกับการปล่อยอัลบั้ม Alter Ego ของลิซ่าดูเหมือนจะได้รับการจับตามองเป็นพิเศษด้วย คอมเมนต์ที่ชมว่าเพลง Born Again ดีระบุว่าชอบแต่โดจาแคทและเรย์ แต่ไม่ชอบลิซ่า สำนักข่าวเกาหลีใต้ระบุว่ายอดจำหน่ายอัลบั้ม Alter Ego ของลิซ่าไม่ดีเท่าที่ควรและถือว่าเป็นอัลบั้มที่ไม่ประสบความสำเร็จ คอมเมนต์ในเกาหลีใต้ตำหนิคอนเซปต์อัลบั้มที่ใช้ Comics เล่าเรื่องตัวตนทั้ง 5 ในอัลบั้ม
แม้จะมีพฤติกรรมบ่งชี้หลายครั้งว่าลิซ่าถูกเลือกปฏิบัติและมีการเหยียดเชื้อชาติในเกาหลีใต้ แต่สังคมไทยกลับไม่เห็นด้วยนักและมองว่าแฟนคลับลิซ่าเรื่องมากเกินไป
#เกาหลีใต้กันซีนชาวต่างชาติ – เรื่องที่เกิดขึ้นกับไอดอลทุกสัญชาติ ไม่เว้นแม้แต่ไทย
จริงหรือไม่ที่เกาหลีใต้เหยียดเชื้อชาติ ? คำตอบคือ ‘มีลำดับชั้น’ อยู่จริงในสังคมเกาหลี ในผลสำรวจของ US News & World Report ระบุว่าเกาหลีใต้มีอัตราการเหยียดเชื้อชาติสูงเป็นอันดับที่ 5 จากจำนวน 89 ประเทศที่สำรวจ แผนภูมิหนึ่งแสดงภาพคนที่ได้รับผลกระทบจากการเหยียดเชื้อชาติในเกาหลี โดยมีกลุ่มบนสุดคือคนเกาหลีใต้เอง กลุ่มต่อมาคือคนจากกลุ่มเอเชียกลาง เอเชียตะวันออก และคนจากประเทศอื่น ๆ ที่มีผิวขาว ส่วนกลุ่มล่างสุดคือผู้อพยพจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และคนดำ ซึ่งรวมถึงลูกครึ่งที่ไม่ผิวขาวด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมวิทยา ศาสตราจารย์พัคคยองแท ระบุว่า “การเหยียดเชื้อชาติแบบเกาหลีคือการรับเอาลำดับชั้นแบบตะวันตกมาใช้ โดยคนผิวขาวอยู่บนสุด แลผิวดำอยู่ล่างสุด คนเกาหลีมองว่าตัวเองอยู่ตรงกลาง ๆ ค่อนไปทางด้านบน และก็รู้สึกภาคภูมิใจในตำแหน่งนั้น” เขากล่าวอธิบายเพิ่มด้วยว่านอกจากสีผิว ลำดับชั้นทางเศรษฐกิจก็ส่งผลด้วย และผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือผู้อพยพชาวเอเชียที่ไม่ได้มีผิวขาว หรือก็คือชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สภาพเศรษฐกิจของประเทศค่อนไปทางยากจน
การถูกเลือกปฏิบัติของไอดอลต่างชาติถูกพูดถึงอย่างน้อยเป็นเวลา 20 ปีแล้วนับแต่ K-Pop ได้รับความนิยมระดับโลก นอกจากต้องเผชิญอุปสรรคทางภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ไอดอลต่างชาติยังมักไม่ได้รับการสนับสนุนทางอาชีพเท่าที่ควร ‘สร’ (SORN) ไอดอลไทยอดีตสมาชิกวง CLC กล่าวว่าเธอและเอลกี้ (Elkie) ที่เป็นสมาชิกชาวฮ่องกงในวงได้รับค่าจ้างน้อยกว่าสมาชิกชาวเกาหลีอย่างน้อย 6 เท่า ค่าจ้างมักจะเข้าบัญชีของสมาชิกต่างชาติล่าช้า รวมถึงค่าลิขสิทธิ์ที่สมาชิกต่างชาติจะได้น้อยกว่า โดยค่ายอ้างว่าเป็นเพราะกฏหมายระหว่างประเทศที่แตกต่างกัน
æspa เป็นอีกวงที่มีสมาชิกชาวจีนและสมาชิกลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น มีหลายครั้งที่สมาชิกทั้ง 2 คนถูกเลือกปฏิบัติและเป็นที่พูดถึง ในช่วงเดบิวต์ ‘จีเซล’ (Giselle) มักจะไม่ปรากฏในภาพรวมของวง มีเวลาออกอากาศน้อย และในการโปรโมตร่วมกับ Spotify ครั้งหนึ่ง จีเซลไม่ได้มีเพลย์ลิสต์เป็นของตัวเอง สำหรับ ‘หนิงหนิง’ (NingNing) ไอดอลชาวจีนสมาชิกวง æspa ก็ถูกละเลยบ่อยครั้งขณะทำการแสดง เช่น ไม่เปิดไฟ Follow ขณะท่อนร้อง หรือไม่ส่งหนิงหนิงไปร่วมงานปารีสแฟชั่นวีค 2025 เหล่านี้เป็นการเลือกปฏิบัติที่โจ่งแจ้งและมีการเรียกร้องบ่อยจากแฟนต่างชาติ แต่ก็ยังเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ กับไอดอลต่างชาติในอุตสาหกรรม K-Pop
#ทำไมเรื่องเล็กถึงต้องเป็นเรื่องใหญ่ – ลิซ่าดังระดับโลกแล้ว แต่อคติยังอยู่กับ ‘คนไทย’ ต่อไป
สมมติว่าการเลือกปฏิบัติต่อลิซ่าที่เป็น ‘คนไทย’ มีจริง (ซึ่งมีจริง ๆ และคนไทยเคย #แบนเกาหลี กันไปแล้ว) ทำไมเรายังต้องพูดเรื่องนี้กันอยู่ ? หลายคอมเมนต์มุ่งโจมตีการตั้งข้อสังเกตและปกป้องการกระทำของบงจุนโฮโดยเน้นย้ำถึงการเป็นผู้กำกับที่ทำหนังสังคมและเข้าใจเรื่องการกดทับอย่างถ่องแท้ บางคนกล่าวขนาดว่าลิลลี่ (ชื่อแฟนคลับลิซ่า) แต่งนิยายหลอกกันเองว่าเกาหลีเกลียดคนไทยกันหมดแล้ว เรื่องนี้ไปไกลกว่าแค่คำพูดของผู้กำกับบงจุนโฮที่อาจขาดความละเอียดรอบคอบ หรือสถานการณ์ชวนเข้าใจผิดที่ยองจีเมินลิซ่า แต่มันคือเรื่องคนไทยกำลังปฏิเสธว่าการเหยียดหยามไม่มีจริงและมองว่าเป็นแค่เรื่องแฟนคลับประสาทแดก
อ่าน #แบนเกาหลี การโต้ตอบสุดร้อนแรงจากคำถามคาใจ ตกลงเขาเหยียดเราไหม หรือคนไทยคิดไปเอง ที่ https://bit.ly/4ilMfrD
คนไทยถูกปฏิเสธเข้าประเทศเกาหลีใต้จำนวนมาก ผู้หญิงไทยถูกมองว่าเป็นพนักงานบริการที่ถูกล่วงละเมิดได้ตามใจชอบ ผู้ชายเกาหลีอวดอ้างว่าเขาหล่อกว่าผู้ชายไทยทั้งประเทศ ในซีรีส์เกาหลีใต้มีบทพูดว่าที่เปรียบคนโรคจิตกับการกินต้มยำกุ้ง และยังฉายภาพประเทศไทยในฐานะเมืองแห่งอาชญากรรมสม่ำเสมอ แน่นอนว่าภาพประเทศไทยจากสื่อเกาหลีใต้ก็ฉายไปทั่วโลกด้วยในวันนี้
หลายความคิดเห็นออนไลน์ชี้ว่าลิซ่าไม่คิดมากหรอก และลิซ่าก็ดังระดับโลกแล้วไม่จำเป็นต้องง้อเกาหลีใต้ ไม่ว่าสิ่งนี้จะเป็นความจริง หรือสำคัญกับลิซ่าหรือไม่ แต่อคติต่อเชื้อชาติไทยจะยังอยู่ตรงนี้ ติดตัวเราไปในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรในโลก
เรื่อง ‘เหยียดคนไทย’ จึงไม่ใช่แค่ข้อสังเกตของแฟนคลับคนไทย แต่คือเรื่องภาพลักษณ์ของประเทศ โอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนไทย ทำไมเราถึงไม่มีโอกาสได้เป็นนักท่องเที่ยวที่ประชากรท้องถิ่นต้อนรับแบบที่เราทำเสมอเมื่อชาวต่างชาติมาเที่ยวไทย แล้วประชากรไทยนับแสนชีวิตที่เดินทางออกจากประเทศเพื่อพยุงเศรษฐกิจครัวเรือนต้องเจอสภาวะแบบใดจากนายจ้างที่เลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ
#แบนเกาหลี #Lisa #บงจุนโฮ #Kpop #Racism
อ้างอิง
Yahoo: https://bit.ly/4isfQPv
Drarry_175: https://bit.ly/3QKRLaU
The Korea Herald: https://bit.ly/4h9TmBJ
Koreaboo: https://bit.ly/4bv1nA8
Buzzfeed: https://bit.ly/41r0bcA
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”