Spectrum

#Interเน้ด EP.0 Late Dating Wrapped 7 บทเรียนทรงคุณค่าที่แลกมาด้วย blood, tear, sweat & definitely cum

3 นาที

4

Share to

มกราคม 31, 2025

3 นาที

4

มกราคม 31, 2025

Share to

ปี 2024 ไปเดตมาประมาณ 65 ครั้ง++ 

เป็นเดตแรก 21 ครั้ง (ผู้ชาย 18 คน, ผู้หญิง 2 คน, และคู่แต่งงานชาย-หญิง 1 คู่)

มีเซ็กซ์กับ 15.5 คน (มีคนนึงล้มเลิกกลางคัน)

เสียดายเวลา 2 ครั้ง

เสียใจอีก 4 ครั้งเพราะเป็นการเดตที่ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล

เอาจริงนะ Powerpoint Night เป็นชื่อที่ยึดติดกับโปรแกรมมาก ทั้ง ๆ ที่พรีเซนเทชั่นเหล่านี้ฉันใช้แค่ Format ที่ดูตอแหลที่สุดจาก Canva นวัตกรรมจากผู้หญิ๊งผู้หญิงเพื่อปฏิวัติวงการพรีเซนเทชั่นให้เราเอาเวลาไปโฟกัสที่เนื้อหามากกว่าการจัดหน้า

แต่ใช่ นี่คือ Powerpoint Night  คือคืนที่ฉันตัดสินใจว่าเรื่องส่วนตัวที่สุดนับจากบรรทัดนี้จะถูกเล่าและรับฟังอย่างเปิดใจ และข้อมูลข้างบนคือเรื่องย่อที่สุดของ 366 วัน ในปี 2024 ที่ผ่านมา มันไม่ง่ายที่จะเล่าเรื่องนี้ออกมาในที่สาธารณะขนาดนี้ แต่สิ่งที่ยากที่สุดได้เกิดขึ้นไปแล้ว คือการนั่งนับ ย้อนคิด เรื่องเดตที่ผ่านมาจนออกมาเป็น Dating Wrapped ปลายเดือนมกราคม ที่เลยเวลาและโอกาสทั้งหมดไปแล้ว

มันไม่ตลก ไม่ได้แซ่บ ไม่ใช่ประสบการณ์เสียวข้างถุงกล้วยแขกหรือเรื่องบนเตียงของคนดังแบบที่เราเห็น ๆ กันในรายการต่าง ๆ แต่มันคือความจริงของผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ที่เคยบันทึกเรื่องนี้อย่างเป็นส่วนตัวเพื่อความปลอดภัย และเลือกจะบันทึกมันลงที่นี่เพื่อยืนยันว่าเรื่องห่าเหวที่ทั้งสุข เศร้า เคล้าน้ำตาและน้ำcum เหล่านี้เกิดขึ้นจริง และหวังว่าจะมีคนอ่านมาช่วยยืนยันว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ‘เกิดแต่กับกู’

ถ้าอ่านมาถึงบรรทัดนี้ เดาว่าคุณคงพร้อมที่จะเป็นเพื่อนในวง Powerpoint Night แล้ว อย่าลืมว่ากฏของค่ำคืนนี้มีแค่ 2 ข้อ คือ 1) We listen และ 2) We don’t judge (out loud) แต่เอาจริงจะตัดสินติติงก็ย่อมได้ ตอนตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ฉันก็เตรียมใจไว้แล้ว – ถ้าพร้อมแล้ว Welcome to Interเน้ด บันทึกส่วนตัวที่เผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ตของผู้หญิงที่โคตรขี้ระแวงแต่ก็ตอบตกลงกับแทบจะทุกคำขอแปลก ๆ ที่เข้ามาเพราะถือคติว่า because, why the fuck not? เราไม่ได้จะมี sex drive และใจรักการผจญภัยแบบนี้ไปตลอดนี่นา

#Interเน้ด EP.0 Late Dating Wrapped 7 บทเรียนทรงคุณค่าที่แลกมาด้วย blood, tear, sweat & definitely cum

เรื่องก็คือเมื่อปลายปีเห็นเทรนด์ Dating Wrapped สรุปชีวิตเดตประจำปีก็เลยอยากทำบ้าง แต่พอลองนั่งย้อนความแล้วหัวจะปวด อยากจะกรี๊ด อันที่จริงอยากกลายร่างเป็นหมาป่าเดียวดายเสียให้รู้แล้วรู้รอด เพราะการย้อนไปนั่งคิดถึงแต่ละเดต แต่ละเรื่องแต่ละราวที่ผ่านมาก็พบว่าปี 2024 หนักหนาอยู่เหมือนกัน ทั้งในแง่ของสุขภาพกายและสุขภาพจิต หนักถึงขั้นที่นั่งนับไปได้นิดเดียวก็หยุดกลางคัน จนต้องเลื่อนโปรเจกต์ wrapped มาปลายเดือนมกราคม หลังตั้งปณิธานใหม่ได้ว่าปี 2025 นี้จะ ‘ไม่เจ็บ ไม่ตาย ไม่ต้องไปตรวจร่างกายฉุกเฉิน’

ย้อนไปต้นปี 2024 ฉันเข้าสู่ Online Dating Pool ด้วยเหตุผลแค่เพราะว่าอยากหาเรื่องตื่นเต้นให้ชีวิตบ้าง ฟังดู cliché (aka สะเหล่อ) แต่ฉันหมายความตามนั้นอย่างจริงใจ– มันเป็นช่วงชีวิตที่รู้สึกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ไม่มีเรื่องไหนทำให้ใจเต้นแรง ไม่ตกหลุมรัก ไม่ปราถณาอยากเจอหน้าใครเป็นพิเศษ ไม่ได้อยากได้ อยากมีอะไรไปมากกว่าปกติ กราฟชีวิตมันแสนสุดจะราบเรียบ เส้นทางการผจญภัยและผจญเพลิงใจจึงเริ่มต้นที่คำถามว่า “อะไรจะเร้าใจไปกว่าการไปเดตคนแปลกหน้าที่มาจากต่างถิ่น ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมกันเล่า” (จริง ๆ มีตัวเลือกเยอะมาก ตั้งแต่บันจี้จัมพ์ หัดขับรถ เจาะจมูก ฯลฯ แต่การเดตนี่แหละคือคำตอบสุดท้าย!) และหลังการเก็บประสบการณ์กว่า 366 วัน บวกกับประสบการณ์ที่เก็บมาแล้วทั้งชีวิต นี่คือ 7 บทเรียนที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ เลือด น้ำตา และ lots of cum

1. Ghosting isn’t personal – การเทกันเป็นเรื่องปกติมากก คุยอยู่ดี ๆ หายไปก็เป็นเรื่องปกติเหมือนกัน เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ไม่ดีพอ มันแค่ไม่เวิร์คและต่างคนต่างก้าวต่อไป ด้วยความที่การเดตออนไลน์เราแมชกับคนจำนวนเยอะมาก และการได้แชทคุยกันก็เป็น Stage 1 ของการเริ่มเดต บางคนอาจได้ไปต่อ บางคนไม่ได้ไปอาจจะเพราะไม่โดนใจ หรือเพราะมันไม่ใช่ช่วงจังหวะที่ตรงกันในชีวิต ฉันเคยผ่านช่วงเวลาของการตกใจและสงสัยในตัวเองว่าเราไม่ฮ็อตพอตรงไหนวะ  ทำไมอีนี่กล้าเทเรา ต้องอาศัยแรงปลุกใจจากเพื่อนเป็นเดือนกว่าจะกู้ความมั่นใจกลับมาได้ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องของเราเลยสักนิด เพราะฉะนั้นขอใช้พื้นที่นี้สร้าง shortcut ให้กับคนอ่านเลยว่าอย่าไปเสียเวลาคิดมาก เราแค่ไม่ใช่ในเวลานั้น เราก็ยังฮ็อตเหมือนเดิมนั่นแหละ

2. Support System สำคัญมาก – มีเพื่อนดีมีชัยไปเลยโว้ย!  นอกจากการเอาใจลงไปเล่นจะเสี่ยงทำให้เราเจ็บจนต้องคอยให้เพื่อนปลอบแล้ว การใช้ชีวิตแบบที่สังคมตราหน้าว่า ‘hoe’ หรือ ‘slut’ ที่ในภาษาไทยแปลง่าย ๆ ว่า ‘ร่าน’ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันโคตรมั่นใจว่าไม่เค๊ยไม่เคยตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเอง ไม่เคยเอา ‘มูลค่า’ ของตัวเองไปผูกกับเซ็กซ์หรือเรื่องอื่นใดทางเนื้อตัวร่างกายแม้แต่น้อย แต่พอนาน ๆ เข้า พอเริ่มลองทำอะไรแปลกใหม่ บางครั้งบางคราวระหว่างมีเซ็กซ์ท่าแปลก ๆ ที่ทำให้ตั้งคำถามไปถึงความเป็นมนุษย์ (ขนาดนั้นเลย) หรือตอนเกือบตายจนเห็นแสงแว๊บตรงหน้ามันก็มีบ้างที่สงสัยว่านี่กูทำเกินไปหรือยัง ฉันมั่นใจว่าตัวเองแฮปปี้ดี แต่ยังเป็น ‘ผู้หญิงดี’ อยู่ไหมชักจะไม่ทั่นใจแล้ว ทั้งที่ปกติแทบจะไม่แคร์เลยก็ตาม สังคมห่าเหวนี่ทำให้พอแฮปปี้กับเซ็กซ์มาก ๆ ก็ต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองจนได้ แต่โชคดีที่คำตอบมั่นใจและสายตาเข้าอกเข้าใจจากเพื่อนนี่แหละที่ช่วยไว้ นอกจากนี้เพื่อนยังเป็นระบบความปลอดภัยในแง่ของการส่งโลเคชั่นให้เผื่อตกอยู่ในอันตราย เป็นคนที่ต้องดีลไว้ว่าอาจให้พาขับรถหนี และเป็นเพื่อนนี่แหละที่เราจะไว้ใจให้ทำลายหลักฐานหากพลาดพลั้งอะไรไป

3. ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่เป็นไบเซ็กชวล เตรียมตัวถูกชวนไป Threesome – คำชวนนี่ฟังดูน่าสนุกนี้บางทีโคตรไม่สนุกเลย มันพอไหวถ้ามาจากคู่แต่งงานที่หาสีสันใหม่ ๆ ให้ชีวิตแต่งงาน แปลกใจนิดหน่อยถ้ามาจากคู่รักนักท่องเที่ยว แต่พอเป็นคำขอจากผู้ชายใจกล้าที่มาขอว่า “เธอช่วยหาผู้หญิงอีกคนมาด้วยเลยได้ไหม” มันแสนจะตลกปนสมเพช ฉันคงไม่สั่งสอนใครว่าต้องทำอย่างไรในสถานการณ์นี้ แต่ขอเล่าจากประสบการณ์จริงว่ามันไม่เหมือนหนังโป๊เสมอไป มันจะมีช่วงเวลากระอักกระอ่วนอยู่บ้าง ซึ่งอาจเป็นเรื่องน่ารักก็ได้ หรือบางครั้งคู่รักอาจจะมองกันตาเขียว แต่ส่วนมากแล้วมันเป็นไปได้ด้วยดีจากการตกลงกันให้เข้าใจก่อนเริ่มกิจกรรม หากมีประเด็นที่แนะนำได้ ก็คืออยากให้ได้ลองเป็น ‘ขาที่ 3’ ครั้งแรกกับคู่ที่มีประสบการณ์ดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงดราม่าและแผลทางใจที่อาจเกิดขึ้นได้จากความไม่มั่นใจในตัวเองของเรา (ทำไมเขานัวกันแล้วเราถูกทิ้งไว้) และการไม่ได้พูดคุยขอบเขตกันให้ชัดแต่แรก เช่น บางคู่อยากให้มีเซ็กซ์แล้วรีบแยกไป ไม่มี after care หลังเซ็กซ์ ซึ่งอาจจะโหดร้ายทางใจเหมือนกันหากเราต้องการสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเพราะมองว่าเป็นมารยาทหรือจากฮอร์โมนออกซิโตซินก็ตาม

4. Honestly isn’t always the best policy – บางครั้งการจริงใจอาจไม่เวิร์ค แน่นอนว่าการเดตต้องอาศัยความจริงใจ คุยอย่างตรงไปตรงมา แต่อย่าลืมว่าเรายังไว้ใจทุกคนไม่ได้ อย่างน้อยก็ในตอนแรก (มันฟังดู simple มาก แต่เชื่อเถอะว่าในห้วงรักหน้ามืดตามัว เราไว้ใจคนง่ายมาก) สำหรับเราที่ไม่ได้มุ่งมั่นหาแฟนจริงจังขอสารภาพว่าเราตอบไปเรื่อย ไม่ได้โกหก แต่ก็ตอบไม่ตรงคำถามบ้าง ตอบกว้าง ๆ บ้าง และที่สำคัญไม่เคยมีใครรู้ว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน เวลารับส่งฉันปักหมุดที่ห้างเล็ก ๆ ใกล้บ้าน และมันช่วยชีวิตไว้มาก เพราะระยะเวลา 366 วันแห่งการเดตเราโดนขู่จะตามมาถึงบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง – เกือบกลับแต่กลับมาได้ พร้อมคติสอนใจที่คนเขาย้ำกันนักหนาว่าผู้ชายบางคนแม่งไม่เข้าใจคำว่า “NO”

และๆๆ อย่าลืมว่าเราเป็นสาวไทยที่ภาพลักษณ์ติดลบในมุมมองของคนต่างชาติขี้ตัดสิน ต่อให้เราจะเผยข้อมูลด้วยใจบริสุทธิ์ก็ยังสุ่มเสี่ยงว่าจะถูกเอาไปเม้าท์ในกรุ๊ป ‘Have you ever dated her?’ ที่ชายต่างชาติเอาไว้เม้าท์สาวไทย ถ้าเราไม่ซีเรียสก็ย่อมได้ เอาจริงเราไม่ได้มีหน้าที่ต้องแบกชื่อเสียงบารมีสาวไทยทั้งประเทศอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากเซฟใจไว้ก็เช็คให้ชัวร์ก่อนจริงใจใสซื่อ

5. ถ้าอยากเดตผู้หญิงต้องทำโปรไฟล์ให้น่าเชื่อถือ (มากๆ) – ในแอปพลิเคชันที่มีคนหลายอัตลักษณ์ทางเพศมันปกติมากที่เราจะถูกทักแชทโดยบัญชีผู้ใช้ที่เป็นรูปอวตาร หรือไม่ก็มีแค่รูปที่ไม่เห็นหน้า โปรไฟล์ฉันเองก็ใกล้เคียงแบบนั้น มีรูปโปรไฟล์รูปเดียวและไม่เขียนรายละเอียดใน bio เพราะต้องการรักษาความเป็นตัวตัวเท่าที่ทำได้ พูดตรง ๆ คือไม่อยากเสี่ยงให้คนรู้จักมาเจอรูปเราที่ถ่ายแบบตั้งใจ thirst trap 

แล้วการพยายามรักษาความเป็นส่วนตัวนั่นแหละที่ทำให้ผู้หญิงเกือบ 100% ไม่ตอบแชท จนกระทั่งฉันลองเพิ่มรูปภาพและเขียนแนะนำตัวสั้น ๆ ถึงจะได้คุยกับผู้หญิงบ้าง และหลังจากการสร้างสัมพันธ์ได้สักระยะทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “thought you were a creepy man” เพราะเรารู้กันดีว่าเป็นผู้หญิงต้องระมัดระวังตัวมากขนาดไหน 

(แต่การแทบจะไม่มีรูปเลยกลับไม่เป็นปัญหากับผู้ชายที่ทักมาบอกว่า “you’re so sexy” ที่ไม่รู้ตัดสินจากอะไร รูปฉันเห็นแค่ข้อมือด้วยซ้ำ)

6. รู้หรือไม่ – เขารู้กันว่าถ้าใส่ข้อมูลในโปรไฟล์ว่า ‘freelance’ หมายถึงเป็น freelance sex worker ที่สามารถนัดแนะเข้ารับบริการได้ผ่านแอปพลิเคชันเดต เพราะฉะนั้นบางแอปฯ จะแบนไม่ให้บัญชีที่ระบุโปรไฟล์ (และต้องสงสัยว่าสมัครแอปฯ มาเวิร์ค) แบบนี้ใช้งาน ซึ่งขั้นตอนการแบนนี่แหละที่น่าสงสัยว่าไปสืบเสาะอย่างไร แอบอ่านแชท หรือแค่เห็นเป็นผู้หญิงเอเชียก็แบนเลย? อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ตั้งใจไปเวิร์คแล้วอยากหลีกเลี่ยงการแชทมาขอซื้อให้ระบุไปเลยว่าเป็นฟรีแลนซ์อะไร เช่น Freelance Writer คิดซะว่าประหยัดเวลาไล่ตอบแชท ส่วนใครที่จะไปเวิร์คก็ต้องเช็ครีวิวแอปพลิเคชั่นให้ดีเพื่อไม่ให้เสี่ยงโดนแบนบัญชี (ที่บางแอปฯ อาจแบนไปถึงเลขบัตรประชาชน)

7. Sexident = อุบัติเหตุจากเซ็กซ์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ – ฉันไม่ใช้คำว่าปกติเพราะอยากเลี่ยงการบิดสารไปว่าอย่างไรเสียก็ต้องเจ็บตัว และยังย้ำเช่นเดิมว่าเซ็กซ์ไม่จำเป็นต้องเจ็บปวด แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้และมันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยจริง ๆ 

ต้องบอกก่อนว่าฉันดูแลตัวเองอย่างดีที่สุดเท่าที่คนนึงจะทำได้ ฉันจดบันทักการเปลี่ยนแปลงของร่างกายก่อนหลังมีเซ็กซ์ และลงรายละเอียดลึกเสียกว่านิยายเสียว ทุกรอยเขียว รอยเชือก สีตกขาวที่เปลี่ยนไป และอีกมากมายที่แม้แต้หมอก็ยังอึ้ง แต่ถึงกระนั้นปี 2024 ฉันเข้าโรงพยาบาลเพราะเซ็กซ์ 4 ครั้ง เหตุเพราะคนสารเลวที่แอบถอดถุงยาง 1 ครั้ง ที่ทำให้วันต่อมาต้องรีบไปตรววจ STD และ HIV (ปลอดภัยดี – แน่นอนว่าแจ้งความอะไรไม่ได้) ส่วนอีก 3 ครั้งเพราะ ‘sexident’ ว่าด้วยการมีแผลฉีกขาด ปากแตก และสะโพกกระแทกอย่างแรงจากการตกเตียง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากเซ็กซ์ที่เต็มใจ

แต่หนึ่งในอุบัติเหตุที่เจ็บใจที่สุดคือ ‘ช่องคลอดอักเสบ’ เพราะถ่อไปถึงโรงพยาลเพื่อฟังหมอไล่เรียงสาเหตุว่าอาจเกิดจากอะไรได้บ้างและหนึ่งในนั้นคือ ‘มีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคนหรือมีคู่นอนคนใหม่’ แม่ง โคตรจะตอบตาม textbook ฉันถามหมอต่อว่าถ้ามีเซ็กซ์กับคนเดิม แต่บ่อยครั้ง หรือเกิดมีเซ็กซ์ที่ไม่สะอาดนัก (ปนเปื้อนแบคทีเรีย) อาจจะจากของเล่นหรือของกินอะไรก็ตามล่ะ หมอตอบว่าก็เป็นไปได้เหมือนกัน ก็เลยถามอีกว่าทำไมการมีคู่นอนบ่อยครั้งถึงจะสุ่มเสี่ยงมากกว่า? จะไม่ง่ายและเข้าใจง่ายกว่าหรือหากระบุไปเลยว่าอะไรกันแน่ที่จะทำให้ช่องคลอดอักเสบ เช่น เสียดสีมากไปใช่ไหม? มีเซ็กซ์แบบไม่ใส่ถุงยางหรือเปล่า? นั่งเถียงกับหมออยู่นานแบบสิ้นหวังสุด ๆ กับ slut-shaming ในรูปแบบการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ณ ตอนนั้นเราไม่ได้เสียใจ ไม่ได้อาย แต่เซ็งฉิบหายที่การบิดข้อมูลแบบนี้จะทำให้คนมากมายเข้าไม่ถึงการรักษาที่ถูกต้อง 

ฉันคิดว่าตัวเองแสนจะเก่งกล้าที่ไปเถียงหมอ แต่กลับบ้านมานั่งหงอว่าหรือเรามีเซ็กซ์มากไป เปลี่ยนคู่นอนบ่อยมากไป ความเจ็บป่วยนี้คือสิ่งที่คนร่านคนนึงสมควรได้รับหรือเปล่าวะ (ยอมรับว่าดราม่ามาก) และประโยคเดียวที่เรียกสติกลับมาได้มาจากเพื่อนที่ถามแค่ว่า “ก็ปกติปะ เหมือนเป็นหวัด” ถ้าอากาศเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ร่างกายไม่แข็งแรงเราอาจจะเป็นหวัดได้ ถ้าเรามีเซ็กซ์ในช่วงที่จิ๋มไม่แข็งแรง น้องก็อาจจะอักเสบได้ เรื่องมันก็เท่านั้น ไม่มีความน่าอาย ไร้การตีตรา และนี่แหละถึงกลับไปบทเรียนข้อที่ 2 ว่าทำไมเพื่อนที่ดีถึงสำคัญ

ติดตาม #Interเน้ด ทุกศุกร์สุดท้ายของเดือนทาง Spectrum 

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl