“ตั้งแต่เด็กจนหนูโตมา หนูได้สู้ชีวิตมาแล้ว 1 ครั้ง แล้วครั้งนี้หนูก็จะสู้อีกครั้งเพื่อตัวหนูเอง”
‘ซากุระ ซาโต’ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่ากำลังเตรียมความพร้อมลงประกวดเวทีแห่ความฝันของสาวทรานส์ทั่วโลก Miss Tiffany’s Universe ประจำปี 2025 โดยระบุว่าการร่วมประกวดในเวทีนี้เป็นอีกหนึ่งความฝันที่อยากทำให้สำเร็จ พร้อมขอกำลังใจจากแม่ ๆ และพี่น้องที่สนับสนุนและติดตามตั้งแต่ยังรู้จักเธอในนาม ‘เคอิโงะ ซาโต’
วันนี้ในวัย 25 ปี ซากุระแนบประวัติว่าเธอเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยนเรศวร ทำตามความฝันมาตลอดชีวิตและกำลังมุ่งหน้าต่อสู้เพื่อความฝันอีกครั้งดังที่เธอเคยทำเมื่อครั้งยังเด็ก ‘ซากุระ เคอิโงะ ซาโต’ เป็นที่รู้จักจากข่าวตามหาพ่อ ภาพของเด็กวัย 9 ปีที่ถือรูปถ่ายของชายญี่ปุ่น ณ สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อสอบถามนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปมาว่ารู้จักชายในภาพไหม ทำให้ซากุระที่ ณ ขณะนั้นใช้ชื่อว่า ‘เคอิโงะ ซาโต’ เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศไทย และได้ออกข่าวไปถึงประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนติดตามและให้กำลังใจจนได้พบพ่อในที่สุด หลังจากนั้นซากุระได้ออกสื่อและรายการโทรทัศน์หลายครั้ง เพื่อเล่าเรื่องราวการต่อสู้ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงการเติบโตเป็นผู้หญิงเต็มตัว เธอเล่าความยากลำบากในการโอบรับและเปิดเผยตัวตนในฐานะผู้หญิงข้ามเพศ เนื่องจากสังคมรอบข้างที่เติบโตนั้นยังมีอคติต่อคนข้ามเพศ นอกจากนี้เธอยังต้องทำงานเพื่อส่งเสียตัวเองในการศึกษาเพราะแม้จะได้ทุนมาในช่วงเป็นที่รู้จักในสื่อทั่วประเทศ แต่ก็ไม่ได้เพียงต่อการใช้ชีวิตและการเติบโต การปรากฎตัวของเธอเรียกความสนใจจกาสังคมได้ทุกครั้ง จากเรื่องราวการต่อสู้ของเด็กที่พาตัวเองเติบโตอย่างสวยงามท่ามกลางความกดดันและข้อจำกัดในชีวิต
‘เคอิโงะ ซาโต’ เติบโตมาเป็น ‘ซากุระ เคอิโงะ ซาโต’ ชื่อที่เธอเลือกเองเพื่อแสดงถึงความสวยงามและการเบ่งบานตามช่วงฤดู ที่เธอเปรียบว่าเหมือนชีวิตเธอที่มีทั้งช่วงเบ่งบาน และช่วงที่ต้องต่อสู้รอคอยความสวยงามของชีวิตอีกครั้ง
การประกวด Miss Tiffany’s Universe ประจำปี 2025 ปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา และกำลังอยู่ระหว่างคัดเลือกผู้เข้ารอบต่อไป
#MovingForward #พุ่งทยานสู่วันใหม่ #MTU2025 #MissTiffanysUniverse
อ้างอิง
Sato Sakura: https://bit.ly/3WLlkg7
Thairath: https://bit.ly/3ClZ1pZ
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
