ในงาน WWDC 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อ 9 – 13 มิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iOS 26 (Beta) พร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับครอบครัวและผู้ใช้งานเยาวชน หนึ่งในฟีเจอร์หลักคือการอัปเกรดระบบ Communication Safety หรือความปลอดภัยในการสื่อสาร โดยขยายไปถึง FaceTime ที่จะสามารถตรวจจับและหยุดวิดีโอคอลอัตโนมัติ หากพบว่าในเฟรมมี “ภาพเปลือยหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม” เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้โดยเฉพาะเยาวชนเห็นภาพดังกล่าว
ฟีเจอร์ใหม่นี้เพิ่งเริ่มใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยเริ่มจากผู้พัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปที่สมัครเข้าร่วมทดสอบระบบได้ลองใช้งานฟีเจอร์นี้ ก่อนการเปิดตัวเวอร์ชันเต็มให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งาน ซึ่งคาดว่าอยู่ในช่วงกลางเดือนกันยายนที่กำลังจะถึง
#ความปลอดภัยด้านการสื่อสารสำหรับเด็ก – ขยายฟีเจอร์ในระบบวิดีโอคอล จากเดิมที่เป็นเพียงข้อความและการแชร์รูปภาพ
Apple เริ่มลงทุนในเรื่องความปลอดภัยมาตั้งแต่ปี 2021 ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยตรวจจับภาพลามกอนาจารของเด็ก (CSAM) ในข้อความ (iMessages) และรูปภาพที่แชร์ โดยอาศัยการทำงานบนอุปกรณ์ (on-device) ทั้งหมด เพื่อไม่ให้บริษัทละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และขยายขอบเขตไปยังระบบต่าง ๆ มากขึ้น เช่น AirDrop, Shared Albums และ Contact Posters โดยใช้ระบบการวิเคราะห์ภาพที่หากพบภาพเปลือย ก็จะเบลอไว้และแสดงคำเตือนสำหรับเด็ก พร้อมมีปุ่มให้ขอความช่วยเหลือได้
การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ครั้งนี้ต้องการเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ใช้มากขึ้น โดยเน้นไปที่การปกป้องผู้เยาว์ จากการถูกรับชมหรือการส่งภาพเปลือยผ่านวิดีโอ เพื่อลดการคุกคามทางเพศในโลกดิจิทัล เช่น การโชว์ของลับ (cyberflashing) ที่เกิดขึ้นบ่อยในวิดีโอคอล การต่อยอดจากระบบ Family Sharing เดิมที่ผู้ปกครองสามารถควบคุมอุปกรณ์ของเด็กได้ การอัปเกรดจะทำให้ระบบครอบคลุมไปถึงช่วงเวลาที่ผู้ปกครองไม่ได้อยู่ร่วมกับเด็ก ซึ่งระบบการใช้งานจะใช้ AI ร่วมกับ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์และตรวจจับวิดีโอแบบเรียลไทม์ หลังจากนั้นหากพบภาพที่น่าสงสัยจะข้อความเตือน หรือตัดเสียงและภาพทันที นอกจากนั้น Apple เน้นย้ำว่าการพัฒนาจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นส่วนตัว คือจะเกิดขึ้นภายในเครื่องเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ไม่มีการส่งข้อมูลวิดีโอไปยังเซิร์ฟเวอร์อื่น
นอกจากฟีเจอร์หยุดภาพนี้ ยังมีการเปิดตัวของฟังก์ชั่นในด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็นเด็กต้องขออนุญาตพ่อแม่ก่อนส่งข้อความ หรือโทรหาหมายเลขที่ไม่เคยติดต่อ การเบลอภาพโป๊ใน Shared Albums และใน App Store จะเพิ่มการจัดระดับอายุให้ละเอียดขึ้น เช่น 13+, 16+ จากเดิมที่มีแค่เรท 4+, 9+, 12+, 17+ เพื่อให้ผู้ปกครองตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น แต่ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำงานได้จริงก็ต่อเมื่อผู้ปกครองตั้งค่าไว้ ผ่านระบบ Family Sharing
หลังการประกาศฟีเจอร์ใหม่มีเสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานที่กังวลว่า ระบบตรวจจับภาพหรือเนื้อหาส่วนตัวเหล่านี้จะเก็บข้อมูลไว้หรือไม่ และจะมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มากน้อยเพียงใด แม้จะยืนยันว่าการวิเคราะห์ภาพทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่อง ไม่ถูกอัปโหลดหรือจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ แต่เนื่องจากมีการใช้ AI เป็นกลไกลหลักก็ยังทำให้ผู้ใช้งานไม่อาจมั่นใจได้ นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าเทคโนโลยีนี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือควบคุมในความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม เช่น กรณีความสัมพันธ์แบบการควบคุมเชิงบีบบังคับ (Coercive Control) หรือการใช้อำนาจกดดัน บงการ และตรวจสอบพฤติกรรมของอีกฝ่าย โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์ในการตั้งค่าหรือสอดส่องอีกฝ่ายผ่านบัญชีผู้ปกครอง จึงทำให้ผู้ใช้งานกังวลถึงช่องโหว่ของระบบ
#การคุกคามทางเพศผ่านช่องทางออนไลน์ – มีเด็กและเยาวชนที่ประสบปัญหาการคุกคามทางเพศ ทั้งวิดีโอคอล และการแชร์ภาพเปลือยอยู่หลักร้อยล้านคนทั่วโลก
ข้อมูลในปี 2024 จากสถาบัน Childlight Global Child Safety Institute ระบุไว้ว่าเด็กและเยาวชนกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก ประสบกับเหตุการณ์การละเมิดทางเพศออนไลน์ ซึ่งรวมทั้งการเห็นภาพเปลือย การถูกล่อลวงทางเพศหรือการถูกแบล็กเมลด้วยวิดีโอและภาพเปลือย ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ที่องค์กร Unicef ได้เคยระบุไว้เมื่อปี 2021 ว่าเด็กอายุ 12 – 17 ปี กว่า 4 แสนคน เผชิญกับการถูกล่อลวงทางเพศ แชร์ภาพเปลือย ตลอดจนตกเป็นเหยื่อการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศผ่านช่องทางออนไลน์
อย่างไรก็ตามการที่ Apple ขยายมาตรการด้านความปลอดภัยในช่องทางการสื่อสารออนไลน์เด็กและเยาวชนให้มากขึ้น จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอบรับกับปัญหาการคุกคามทางเพศในโลกดิจิทัลที่กำลังเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง
#iOS26 #Apple #Facetime #CommunicationSafety
Content by Pitchaya S.
Graphic by frogman
อ้างอิง
Technews: http://bit.ly/44QAFjy
TheGuardian: http://bit.ly/4kqeOUP
Unicef: http://bit.ly/46vtVce
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”