Spectrum

Gender Lens ปะทะ วาทกรรม ส่องอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ศึกแห่งศักดิ์ศรีที่มีการดูถูกเหยียดหยามเป็นอาวุธ

3 นาที

1

Share to

มีนาคม 24, 2025

3 นาที

1

มีนาคม 24, 2025

Share to

“ท่านสมาชิกผู้อภิปราย (วิโรจน์) ยังมีการเสียดสี และมิหนำซ้ำนะคะไม่มี Gender Lens เลย ปัจจุบันสมาชิกสภาผู้แทนเรารณรงค์ให้ใช้ Gender Lens ในการที่จะพูดถึงผู้หญิง พูดถึงเสื้อผ้าหน้าผม ดิฉันขอให้ท่านประธานพิจารณาด้วยคะ”

การท้วงติงของทันตแพทย์หญิง ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกลายเป็นประเด็นวิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังวิโรจน์มีการกล่าวเปรียบเปรย “โจรใส่อาภรณ์ ขุนนางสวมรองเท้าไข่มุก” ที่ถูกตีความเป็นการวิจารณ์การแต่งกายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เกิดเป็นบทสนทนาว่าด้วยเรื่องเพศและเวทีการเมือง ความเห็นส่วนหนึ่งแย้งว่าการโต้ของทันตแพทย์หญิง ศรีญาดานั้นผิดที่ผิดทาง เนื่องจากคำกล่าวของวิโรจน์เป็นเพียงการพูดเปรียบเทียบเท่านั้น และไม่เห็นด้วยที่ประเด็นเรื่องเพศถูกนำมาปกป้องนายกหญิง ทั้งที่การตั้งคำถามถึงทรัพย์สินของแพทองธารเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ในวาระการตรวจสอบทรัพย์สินการเงินของแพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรี และแพทองธารเองก็ตอบกรณีที่ถูกตั้งคำถามทั้งเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีและครอบครองที่ดินด้วยท่าทีที่ไม่ถูกต้องนัก ความหมิ่นเหม่ในการใช้เรื่องเพศที่สัมพันธ์กับฐานะทางการเงินและการตั้งคำถามในเชิงส่อทุจริตจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีรูปประโยคเชือดเฉือนบ้างตามประสาการเมืองแบบไทย ๆ

#แฟชั่นนายกหญิงเกี่ยวอะไรกับการปฏิบัติหน้าที่ – รองเท้าไข่มุก กางเกงกาญจนบุรี ชุดผ้าไทย รองเท้าพื้นแดง และตำแหน่งปาดผมที่ถูกประโคมให้ด่าทุกวี่วัน

ในขณะที่ฝ่ายโต้แย้งแข็งขันว่าวิโรจน์ไม่ได้จงใจจะชี้ไปที่การแต่งตัวของนายกรัฐมนตรีด้วยการกล่าวถึงรองเท้าไข่มุก แต่ผู้ติดตามการเมืองตลอดมารู้ดีว่า ‘รองเท้าไข่มุก’ ตกเป็นที่วิจารณ์ไปเมื่อครั้งแพทองธารและคณะรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนประเทศจีนและสวมรองเท้าไข่มุก ที่ภายหลังพบว่าเป็นรองเท้า Chanel Velvet & Satin Ankle Boots With removable Pearl Chain ราคาไทยประมาณ 52,000 บาท เรื่องรองเท้าไข่มุกเริ่มที่คำตำหนิอย่างเทสต์ไม่ดี โลว์แฟชั่น ไปจนถึงความไม่เหมาะสมในฐานะผู้นำประเทศ แล้วเลยเถิดไปถึงบัญชีทรัพย์สินว่าไม่มีรองเท้าไข่มุกคู่นี้อยู่ในบัญชี ทั้งที่ตามข้อกำหนดต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินที่มีมูลค่า 200,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น ถัดมาไม่กี่วันการแต่งตัวของนายกรัฐมนตรีก็เป็นประเด็นอีกครั้งจากเสื้อคลุมสีขาวที่ใส่ไปเมืองฮาร์บิน ไม่ต่างจากรองเท้าพื้นแดงที่ใส่ในวันรับตำแหน่ง กางเกงกาญจนบุรีที่ใส่กันทั้งครม. ชุดผ้าไทยที่ใช้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ออกแบบ แม้แต่การปาดผมที่ถูกบอกว่าไม่เหมาะสมในฐานะผู้นำประเทศ

เสื้อผ้าหน้าผมของนายกฯ กลายมาเป็นการเมืองที่น่ารำคาญใจ โจมตีอย่างมุ่งเป้า และเกลียดชังผู้หญิง (Misogynistic) อย่างโจ่งแจ้งในโซเชียลมีเดีย คงจะเชยไปหน่อยถ้าเรายังต้องนั่งพูดว่ากับนักการเมืองชายเราจับผิดเรื่องแต่งตัวขนาดนี้ไหม? และน่าผิดหวังไปนิดที่เรื่องเสื้อผ้านายกฯ มันตามมาถึงสภาอันทรงเกียรตินี้ด้วย เช่นเดียวกับบทบาทความเป็นแม่ ที่ย้อนไปช่วงสัปดาห์ก่อนโซเชียลมีเดียมีการแชร์รูปของนายกรัฐมนตรีแพทองธารขณะพาลูก ๆ วิ่งเล่นที่สนามหญ้าในทำเนียบรัฐบาล และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สนใจหน้าที่ ‘นายก’ ห่วงแต่จะเป็น ‘แม่’ เท่านั้น ช่องแสดงความคิดเห็นจากหลากหลายเพจข่าวเต็มไปด้วยข้อความที่พูดถึงภาระงานนายกที่อาจหนักหนาเกินไปสำหรับ ‘แม่ลูกอ่อน’ ในขณะที่บางส่วนก็แสดงความเป็นห่วงถึงลูกของนายกรัฐมนตรีว่าจะขาดความอบอุ่นเพราะ ‘ห่างแม่’ หากแพทองธารทำงานหนักเกินไป แม้จะมีความพยายามกล่าวว่านี่ไม่ใช่การเหยียดเพศ หากแต่เป็นการตั้งข้อสังเกตจากข้อเท็จจริงว่าลูก ๆ ของนายกรัฐมนตรียังเด็ก และต้องการความอบอุ่นจากแม่ และงานของนายกรัฐมนตรีก็มิใช่งานง่าย ๆ สำหรับผู้หญิงที่เป็นแม่ แต่ความเป็นห่วงที่ผูกติดไว้กับแม่และผู้หญิงนี่แหละที่แสดงถึงการยึดติดกับบทบาททางเพศและการเป็นแม่ของผู้หญิง

‘ขอกลับบ้านไปเลี้ยงลูก’ ถูกนำมาโจมตีนายกหลังมีการรายงานข่าวว่าการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จะยาวนานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงเวลาตี 5 ครึ่งของอีกวัน มีการนำเสนอข่าวว่า “นายกขอกลับบ้านไปเลี้ยงลูก” ทำให้เกิดการติงว่าไม่มีความพร้อมเป็นนายก และเป็นการเห็นแก่ตัว ถือตนเหนือข้อปฏิบัติ ก่อนความจริงจะเปิดเผยในภายหลังว่าไม่ใช่คำกล่าวของแพทองธารแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่มุ่งโจมตีบทบาทแม่นั้นถูกจุดขึ้นและขานรับด้วยดีจากทั้งสังคม ราวกับความเป็นแม่คือตราบาปของนายกรัฐมนตรี และความเป็นผู้หญิงก็ต้องถูกตรวจสอบอยู่เสมอ แม้แต่ในวันนี้ ภาพประกอบของบางสำนักข่าวก็ยังจงใจซูมถ่ายกระเป๋า Chanel ที่นายกรัฐมนตรีพกติดตัวมาด้วย เหมือนกับว่าแฟชั่นเป็นของต้องห้ามของแพทองธาร ชินวัตร

#จากGenderLensสู่บริวารและกีกี้ – ถ้าไร้ซึ่งวาทกรรม คำอภิปรายจะเหลืออะไร

บรรยากาศในสภาเต็มไปด้วยการถกเถียงดังเช่นที่ควรเป็น เช่นเดียวกับบรรยากาศของผู้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ แท็กติกทางการสื่อสารถูกขุดออกมา ท่ามกลางประเด็นมากมายที่ถูกยกมาเพื่อหารือในสภา ‘กีกี้’ กลายเป็นคีย์เวิร์ดที่ถูกพบมากที่สุดใน #อภิปรายไม่ไว้วางใจ จากการเปรียบเทียบถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าเป็น ‘ลูกสมุน’ ที่เข้าข้างนายโดยไม่ไตร่ตรอง รวมถึงทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ที่ถูกวิพากษ์ว่าเอะอะก็ท้วงโดยไม่รับฟังเหตุผล แม้กระทั่งแนวคิด ‘Feminism’ ก็ถูกนำมาตั้งคำถามว่าเป็นเฟมินิสต์ตัวจริงไหม จากเหตุที่โพสต์ในเอ็กซ์ของศรีญาดาที่สะกดคำว่าเฟมินิสต์ผิดเป็น ‘Faminist’ และท้วงให้แจกแจงว่าเข้าใจจริงหรือไม่ว่า Gender Lens คืออะไร หมายถึงอย่างไร และจะนำมาใช้กับการประชุมวันนี้ได้อย่างไรบ้าง 

นอกจากนี้ศรีญาดายังถูกเรียกด้วยคำที่ผูกติดกับการตีตราอย่าง ‘มนุษย์ป้า’ รวมถึงมีการวิจารณ์ไปถึงการแต่งหน้า กรีดตา อีกหนึ่งประโยคที่ถูกรีโพสต์ในเอ็กซ์คือประโยค “เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ฝ่ายบริวารอย่ายุ่ง” ที่กล่าวโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แม้ประโยคนี้จะมีฝ่ายเห็นด้วย สะใจและร่วมตอกย้ำวาทกรรม แต่เป็นที่น่าตั้งคำถามว่าการพยายามทำให้ข้อท้วงติงเหล่านี้กลายเป็นเพียงเสียงจากกีกี้ เป็นประโยคสะท้อนทัศนคติว่า ‘เสียง’  ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ถูกให้ค่าเท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใดตัวแทนประชาชนจึงถูกเรียกว่าเป็นเพียง ‘บริวาร’ ในการอภิปราย แม้ประโยคนี้จะถูกร้องให้ถอนไปแล้วในภายหลัง แต่เมื่อกล่าวออกมาแล้วมันก็ยัง ‘ว่อนเน็ต’ จนถึงตอนนี้

กีกี้ สมุน บริวาร เหล่านี้คือการสร้างวาทกรรมกดทับเสียงของผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมาให้กลายเป็นเพียงการกระทำไร้เหตุผล ดูไม่น่าเชื่อถือ และเอื้อประโยชน์ต่อเจ้านายพวกพ้วง ทั้งที่ความจริงสภาพการณ์เช่นนี้เป็นการเมืองเรื่องจริงในรัฐสภา นักการเมืองจากพรรค การยกมือท้วง แจ้งข้อกังวลแก่ประธานเป็นหนึ่งในเทคนิคการอภิปรายที่รับได้ร่วมกันว่ามีเพื่อลดความรุนแรงในการมุ่งโจมตี และยังคงเป็นไปโดยไม่มีการจาบจ้วงหรือแฝงวาทกรรมไม่จำเป็นที่จะทำให้กระทู้ที่กำลังโต้เถียงนั้นยืดเยื้อ และนับเป็นหน้าที่ตามปกติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้มีเสียงในการอภิปราย

#อภิปรายไม่ไว้วางใจ #GenderLens #GenderPolitics

อ้างอิง

Sanook: https://bit.ly/4kVsDw0

Thai PBS: https://bit.ly/41V6aXg

อภิปรายไม่ไว้วางใจ: https://bit.ly/4hFxPBn

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl