Spectrum

Materialists: ความรัก ความเศร้า ความโง่เง่า และความหวัง ปัจจัยผุพังที่ทำให้คนตกลงใน ‘ดีล’ สำคัญอย่างการแต่งงาน

3 นาที

38

Share to

สิงหาคม 28, 2025

3 นาที

38

สิงหาคม 28, 2025

Share to

บทความนี้เปิดเผยส่วนสำคัญของภาพยนตร์

Materialists (2025) เป็นผลงานกำกับและเขียนบทของเซลีน ซง (Celine Song) ผู้กำกับหญิงชาวแคนาดาที่สร้างชื่อจาก Past Lives (2023) ภาพยนตร์ที่ทำให้คนเชื่อใจว่า The Materialist ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่พล็อตเรื่องใหม่ ๆ น่าจะซ่อนเรื่องราวไว้ใต้คำโปรยซื่อ ๆ ว่า “รักสามเส้า” (Love Triangle)

แต่ Materialists ไม่ใช่เรื่องรักสามเส้า ภาพยนตร์เล่าเรื่องของ ‘ลูซี่’ (รับบทโดยดาโกต้า จอห์นสัน) นักจัดหาคู่มืออาชีพผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเดต และตั้งมั่นอย่างกล้าหาญว่าถ้าจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็ขอแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ (ที่ต้องร๊วยรวย) ดีกว่าการออกเดตไปเรื่อยกับคนที่ไม่คู่ควร เส้นทางการทำงานทำให้ลูซี่ได้เจอกับ ‘แฮร์รี่’ (รับบทโดย​​เปโดร ปาสคาล) นักธุรกิจร่ำรวยผู้ติ๊กทุกเช็คลิสต์ชายในฝัน เขาสูง รวย โรแมนติก และพูดจาชาญฉลาด หรืออย่างน้อยเขาก็มีมาดตามนั้น และในคืนเดียวกับที่สาวสวยและหนุ่มรวยกำลังสานสัมพันธ์ แฟนเก่า ‘คนนั้น’ ก็ก้าวเข้ามา ‘จอห์น’ (รับบทโดยคริส อีแวนส์) เป็นแฟนเก่าคนสำคัญที่สุดในชีวิตลูซี่ สำคัญพอให้ลูซี่ลุกไปกอดเขาอย่างยาวนานขณะกำลังเจรจาทางธุรกิจ สำคัญมากพอที่จะทำให้ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าเพอร์เฟกต์อย่างแฮร์รี่รู้สึกว่าถูกคุกคาม แต่ Materialists ไม่ใช่เรื่องรักสามเส้า ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงสงครามแห่งยุคระหว่างความรักและทุนนิยม ที่จริงแล้ว นี่เป็นหนังแนว Survival เสียด้วยซ้ำ เพียงแต่มันคือการ Survival จากโลกแห่งการเดตที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายประสบสารพัดภัย โดยผู้ชายเป็นฝ่ายมั่นใจและรอดโดยแทบไม่ต้องพยายาม

“การแต่งงานเป็นข้อตกลงทางธุรกิจ”

อาชีพของลูซี่วัดผลสำเร็จที่การแต่งงาน ยิ่งจับคู่ให้คนได้แต่งงานกันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นนักจับคู่มือทองมากขึ้นเท่านั้น ลูซี่มีวิธีจับคู่โดยการลิสต์ข้อดีและข้อเสีย แล้วพยายามเลือกคนที่ “ติ๊กเช็คลิสต์คนในฝัน” ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ลูซี่ไม่พูดเรื่องความรักหรือความโรแมนติก ลูซี่ประเมินตัวเลข หาค่าความน่าจะเป็น และจับคู่คนที่คิดว่าเหมาะสม เรื่องตลกร้ายที่ถูกเล่าอย่างตรงไปตรงมาในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการที่เหล่าชายโสดในเมืองใหญ่ล้วนมีรีเควสผู้หญิงในฝันไว้สูงลิ่ว ในขณะที่พวกผู้หญิงพร้อมลดสเป็กให้เป็นแค่ผู้ชายที่ไม่จนเกินไปและยังเหลือเส้นผมไว้บนหัวบ้าง ลูซี่ทำงานด้วยการปลอบประโลมฝันของผู้หญิงที่มองหาความโรแมนติกเหล่านี้ คอยปลอบใจว่าพวกเธอจะเจอคนที่รัก ในขณะเดียวกันก็พยายามกล่อมให้ผู้หญิงอยู่กับความจริง ยอมจับคู่พวกเธอกับเหล่าชายที่คุณสมบัติไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เกินไป แต่ลูซี่กลับเลือกยืนยันกับพวกผู้ชายแสนทะนงตนว่าเธอจะหาสาวในฝันมาให้ได้

ลูซี่ไม่ใช่คนใจร้าย ลูซี่แค่ทำงานและใช้ชีวิตตามกลไกสังคมที่สอนผู้หญิงว่าให้ลดมาตรฐานเรื่องผู้ชายลงบ้างเท่านั้น และลูซี่ก็ใช้ชีวิตแบบนั้น ลูซี่ลดมาตรฐานและความคาดหวังจากสูตรคำนวณของตัวเอง เธอยึดมั่นกับชีวิตแบบนั้นแค่ไหน ตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ยืนยันได้ดี

ลูซี่เชื่อในความรัก และยืนยันว่าการแต่งงานคือธุรกิจ ธุรกิจที่วัดผลจากความพึงพอใจ ลูซี่ทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ว่าดีลที่แต่ละคนพึงพอใจอาจต่างกันไป ลูซี่ทำให้ข้อถกเถียงว่า “การแต่งงานเป็นข้อตกลงทางธุรกิจ” เข้าใจง่ายกว่าที่คิด เราอาจแต่งงานกับคนที่ทำให้เรารวย เราอาจแต่งงานกับคนจนที่ทำให้เรารู้สึกมีค่า เราอาจแต่งงานกับคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าชนะพี่สาวที่มีสามีเฮงซวย เราอาจแต่งงานเพราะอยากย้ายออกจากบ้านที่มีแม่คอยบงการ– การแต่งงานเป็นข้อตกลงทางธุรกิจ และเมื่อไหร่ที่เรายังพอใจในผลลัพธ์ การแต่งงานนั้นก็สัมฤทธิ์ผล แต่เมื่อไหร่ที่ดีลนั้นไม่น่าพอใจ เราก็แค่ยกเลิก แล้วหาดีลใหม่ต่อไปเท่านั้นเอง

“ความรักเป็นเรื่องง่าย”

ก่อนหน้าที่ Materialists จะเข้าฉายในประเทศไทย เรื่องราวของลูซี่ แฮร์รี่ และจอห์นถูกสปอยล์แล้วจากการฉายในอเมริกาก่อนหน้านี้ เรารู้ว่าเรื่องราวจะจบอย่างไร เราได้ฟังเหตุผลและคำอธิบายจากซง ผู้กำกับและผู้เขียนบทที่ยืนยันในทางเลือกนี้ เรารู้อยู่แล้วว่าลูซี่จะเลือกจอห์น แต่ที่เราไม่เข้าใจ และตัวละครก็คงไม่เข้าใจคือ ลูซี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอรักจอห์น จอห์นไม่เข้าใจว่าทำไมเขารักลูซี่ ส่วนแฮร์รี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่เคยรักใครเลย แต่รักเป็นเรื่องง่ายและไร้เหตุผล ความรักบุกเข้าหาและคนเรามักโอบรับความรักมาแม้รู้ว่ามีความเสี่ยง ไม่สมเหตุสมผล เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และอาจเป็นเรื่องโง่เง่าที่สุดที่เราเคยทำ แต่ความรักนั้นแสนเรียบง่าย ง่ายพอที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผล และปล่อยให้คนดูเดากันไปว่าลูซี่อาจตัดสินใจเลือกจอห์นหลังคิดว่าสูตรคำนวณที่เธอยึดถือไม่สำเร็จผล อาจเพราะลูซี่ทำให้ชีวิตของผู้หญิงคนนึงพังเพราะ ‘สูตร’ ที่เธอเชื่อ ไม่มีการให้คำตอบที่แน่ชัด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ ลูซี่พยายามกับจอห์นอีกครั้งทั้งที่เขาทั้งปากร้าย นิสัยเสีย และขมขื่น เพราะแบบนั้นลูซี่ถึงเชื่อคำพูดของจอห์นที่สัญญิงสัญญาว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะตั้งใจทำงาน จะย้ายออกจากห้องเช่าสภาพเกรอะกรัง และสุดท้ายทั้งคู่ลงเอยกัน ทั้งคู่คือลูซี่ที่ทำพลาด ไม่มั่นใจ มีบาดแผล และจอห์นที่มีแต่ความมั่นใจ แต่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ

สำหรับลูซี่ดีลที่ดีต้องมีความรัก เธอพูดชัดว่าแต่งงานไม่ได้หากไร้ซึ่งความรัก และในภาพยนตร์แนวเอาชีวิตรอดเรื่องนี้ลูซี่มีความรักเป็นปัจจัยสำคัญให้เธอมีหวัง ความรักเป็นปัจจัยสำคัญให้เธอเอาตัวรอดได้หลังผจญภัยกับสงครามแห่งการหาคู่ในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก

ภาพยนตร์เรื่องนี้จบไปแบบไม่เหนือคาด ลูซี่เลือกความรัก– อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ตอนที่เราเห็นฉากจบที่การสวมแหวนดอกไม้ที่ไร้มูลค่าทางเศรษฐกิจ

เรื่องราวของจอห์นและลูซี่ที่เรารู้จบตรงที่เราไม่รู้ว่าจอห์นจะทำได้แบบที่ตัวเองสัญญาไหม เขาจะทำงานมากขึ้น จนน้อยลง อย่างที่ตั้งใจ หรือนี่จะเป็นแค่คำสัญญาจากลมปากผู้ชายที่ไม่มีอะไรจะให้นอกจากความรัก เราไม่รู้ว่าวันนึงลูซี่จะยังแฮปปี้ที่ได้เป็นพลังขับเคลื่อนให้ผู้ชายขี้แพ้หันมาใส่ใจกับชีวิตตัวเองแบบนี้ต่อไป หรือวันหนึ่งเธอจะรู้ตัวว่าไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงคอยดันหลังให้คนที่ไม่แม้แต่จะมีแรงอยากใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง 

#Materialists #A24 #รักแบบไหนที่ใจตามหา

Content by Kantamas P.

Graphic by Kasidit Taranabhaiboon

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl