“I didn’t leave you, I still see you.”
มีคำกล่าวว่าเมื่อเราโตขึ้นก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีคนหล่นหายไประหว่างทาง ถึงจะรู้อย่างนั้นแต่คนมากมายก็ยังคงเสียศูนย์เมื่อถึงคราวต้องสูญเสียเพื่อนสนิท คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ แต่กลับหายไปจากโลกของเรา จากคนที่เคยฟังทุกความลับ แลกเปลี่ยนกันทุกเรื่องราวชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก ใหญ่ หรือไร้สาระในสายตาคนอื่นแค่ไหน สู่คนที่กลายเป็นเพียงคนเคยรู้จัก ที่เคยรักกันมาก เท่านั้นเอง
เพลง ‘Twin’ อยู่ในอัลบั้ม Ruby อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเจนนี่ บรรยายความรู้สึกของเพื่อนคนหนึ่งในความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิทที่ร้างรา จากวันที่ตัวติดกันจนคนรอบข้างเรียกว่าฝาแฝด สู่วันที่ไม่ได้พบกัน ไม่ได้คุยกัน และแม้แต่การพยายามเขียนจดหมายหา ก็เป็นเรื่องยากเย็นกว่าการเขียนเพลงแล้วปล่อยสู่สาธารณชนเสียอีก เพลงนี้ถ่ายทอดความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนไว้ด้วยถ้อยคำง่าย ๆ แต่วิดีโอที่เจนนี่ร้องไห้ขณะแสดงสดครั้งแรกก็เจ็บปวดและดูจะเป็นประสบการณ์ร่วมของคนมากมาย จนทำให้ช่องคอมเมนต์เต็มไปด้วยเรื่องเล่าจาก ‘เพื่อน’ ที่เคยสูญเสียเพื่อนรักไประหว่างการเติบโต
#Spectroscope: Best friends Breakups ทำไมการ ‘เลิกคบกับเพื่อน’ ถึงเจ็บปวดกว่าการเลิกกับแฟน
“การเลิกคบเพื่อนแม่งเศร้ากว่าการเลิกกับแฟนครั้งไหนทั้งนั้น”
“เคยคิดว่าคงเป็นความรักที่ทำให้เสียผู้เสียคน แต่การเลิกคบเพื่อนต่างหากที่ทำให้เราพัง”
“เลิกกับแฟนยังมีเพื่อนคอยย้ำว่าเราเป็นใคร พอเลิกกับเพื่อนแล้วเหมือนตัวตนหายไปด้วย”
.
เหตุผลแรกที่ทำให้การรับมือกับการเสียเพื่อนมันสุดแสนจะทรมาน คือการไม่ชัดเจน ใครที่ ‘โชค’ ไม่ร้ายเท่าไร อาจได้รู้ว่าเราเลิกคบกันเพราะอะไร ทะเลาะกันเรื่องเงิน หรือมีเหตุผลอื่นให้น้อยใจ แต่การจากลาแบบที่ว่ากันว่าเจ็บปวดที่สุดคือการค่อย ๆ หายไปจากชีวิตกัน จากคนที่เคยไลน์หาทุกวัน สู่การเป็นคนที่ไม่แน่ใจว่ายังเชิญไปงานแต่ง ‘สำหรับคนในครอบครัว’ ได้อยู่ไหม? อะไรที่ทำให้เราไม่ใช่คนสำคัญในชีวิตกันและกันแล้ว? ฉันพูดอะไรผิดไป? เธอไม่พอใจอะไรกันแน่? และอีกร้อยแปดคำถามที่อาจไม่มีวันได้เจอกับคำตอบ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา เราก็ไม่เคยรู้ว่าต้องจัดการอย่างไรกับการห่างหายของมิตรภาพ หากเป็นรักโมแมนติกเราคงเรียกแฟนมาคุยให้รู้เรื่องว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน คู่สามี-ภรรยาก็ยังคงผูกพันด้วยภาระและกฎหมาย และเมื่อปัญหาเกิด บางคู่อาจแก้ไขด้วยการไปบำบัดชีวิตคู่ แต่การบำบัดมิตรภาพกลับไม่เคยมีทางเลือก กับเพื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิต กลับไม่มีไกด์ไลน์ให้ว่าต้องทำอย่างไรหากส่อแววจะสูญเสียกันไป
ที่มาความเจ็บปวดอีกข้อเป็นเพราะการเลิกรากับเพื่อนมักไม่มีซีนใหญ่ ๆ ที่บอกให้สังคมรอบข้างรู้ว่าเราเลิกคบกันแล้ว ผู้คนยังถามถึงเขาเสมอเหมือนที่เคย เพราะคาดหวังว่าเพื่อนสนิทคงตอบได้ว่าเขาเป็นอย่างไร ตอนนี้ทำอะไรอยู่ แต่ในวันที่เราตอบไม่ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขาบ้าง คำถามเหล่านั้นก็ย้อนกลับมาสร้างความเจ็บปวดให้เรา แล้วยิ่งหากมีเหตุการณ์ที่เราต้องเป็นคนได้ฟังอัปเดตชีวิตเขาจากปากคนอื่นมันยิ่งเจ็บปวด เพราะที่ตรงนั้นเคยเป็นของฉัน ความห่างหายที่ทำให้เรากลายเป็นอื่นนี่แหละที่ทำร้ายเราซ้ำ ๆ จนกว่าเราจะชินไปเอง ถ้ามันจะมีวันที่เราชินน่ะนะ
#อกหักจากคนรักเจ็บไม่หนักเท่าจากเพื่อน – จากแฟนมีเพื่อนปลอบใจ จบกับเพื่อนไปไม่เหลือใครอีกแล้ว
การต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือกิจวัตรที่เคยทำด้วยกัน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การเสียเพื่อนไปยังทำร้ายเราซ้ำ ๆ ไหนจะอดีตที่เคยมีร่วมกัน ความทรงจำมหาศาลที่ร่วมกันสร้าง เหตุการณ์มากมายที่พากันประสบจนหล่อหลอมมาเป็นตัวเรา ตัวเพื่อน และมิตรภาพของเราที่ผ่านยุคผมม้าเต่อ ทำผมสีบาลายาจ กรีดตายาวถึงหางคิ้ว ฯลฯ สิ่งนี้แหละที่ผูกเราไว้ด้วยกัน ไม่ใช่แค่ความทรงจำสุขหรือเศร้า แต่คือการ ‘เป็นตัวเรา’ ด้วยกัน ที่ทำให้เกิดคำถามว่าเราจะเป็นเราในวันนี้ไหมหากไม่มีเพื่อนคนนี้ที่ร่วมเติบโตด้วยกันมา แม้ว่าระยะเวลาการเติบโตนั้นอาจแสนสั้นเพียงปีหรือแค่ไม่กี่เดือน แต่การอยู่ร่วมกันกับเพื่อนสำหรับบางคนอาจหมายถึงการร่วมแชร์ร้านผมที่ชอบ น้ำหอมสุดโปรด ลิปสติกแบรนด์ที่เวิร์ค หรือมีรูปที่ถ่ายด้วยกันเป็นร้อย ๆ และในวันที่ความสัมพันธ์จบไป แต่สิ่งของและวิถีชีวิตนั้นยังคงอยู่ เราก็เหมือนยังคงใช้ชีวิตอยู่ในพิพิธภัณธ์ของความสัมพันธ์ที่ร้างรา ที่รอบข้างเต็มไปด้วยหลักฐานว่าเคยมีคนหนึ่งอยู่ตรงนี้ ภาพเขายังลอยมาทุกครั้งที่เราหยิบลิปสติกหรือน้ำหอมขึ้นมาใช้
เพราะเพื่อนคือแรงซัพพอร์ต คือเสียงที่บอกว่า “มึงไม่ผิด” “มึงคู่ควรกับคนดีกว่านี้” “สวยมากมึง” “สีนี้เหมาะ” และอีกล้านคำตอบ แสนเสียง สนับสนุนต่อคำถามที่อาจไร้สาระที่สุดที่เราจะเอ่ยออกไปได้ แต่ไม่ว่าจะตอบอะไรกลับมา สิ่งนั้นแหละคือการกระทำที่ย้ำชัดว่าเราไม่โดดเดี่ยว เรามีเพื่อน เรามีคนที่เข้าใจ และเรารู้ว่าเราเป็นใครจากเสียงยืนยันหนักแน่นของเพื่อน
#ความรักอาจยังอยู่ – แต่เราแค่ไม่รู้ว่าต้องรักกันอย่างไร
การมี ‘Closure’ หรือการเปิดใจบอกลานั้นช่วยได้ หากเรารู้ว่าเราเลิกคบกันเพราะอะไร สาเหตุใดที่ทำให้รักเราร้างรา คำแนะนำจากนักบำบัดและกระทู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ว่าไว้แบบนี้ แต่ต้องทำใจด้วยว่าบางครั้งการเลิกคบกันระหว่างเพื่อนอาจไม่ได้มีสาเหตุที่ใหญ่มากพอให้ต้องมีฉากจบที่สมบูรณ์ อาจเป็นเพียงคำพูดเดียว การกระทำเดียว เรื่องเล็กน้อยที่สะสมจนวันหนึ่งอีกคนแค่ค่อย ๆ หายไป ความสัมพันธ์ถูกลดความสำคัญลง และคำถามว่า “ทำไมเราเลิกคบกัน” อาจไม่มีคำตอบ เราอาจรักกันเท่าเดิม ความรักยังคงอยู่ตรงนั้น เพียงแต่เราไม่รู้แล้วว่าเรายังสำคัญพอจะทักไลน์ไปยินดีไหมเมื่อเห็นข่าวคราวของเขาผ่านฟีดในโซเชียล ไม่รู้แล้วว่าต้องทำหน้าอย่างไรเมื่อคนถามว่าเพื่อนสนิทเราไปไหน เกิดอะไรขึ้นถึงเลิกคบกัน
แต่ไม่ว่าจะได้คำตอบหรือไม่ หรือไม่แน่ใจว่าจะได้คุยอีกหรือเปล่า เราต่างรู้ดีว่าเราเคยสำคัญในชีวิตของกันและกันและนั่นอาจเพียงพอแล้วให้เราต่างก้าวไปข้างหน้า แม้ว่าเส้นทางจะแยกกันก็ตาม
Content by Kantamas P.
Graphic by ChayanitK
อ้างอิง
BBC: https://bit.ly/3DTiHCt
Let’s talk about mental health: https://bit.ly/421R8Po
#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน
“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”
