Spectrum

Tiffany’s Show Pattaya: โรงละครทิฟฟานี่ พื้นที่ของ ‘ชาวเรา’ 51 ปีที่ทิฟฟานี่อยู่คู่พัทยา จากบาร์เกย์แห่งแรกสู่เวทีที่โอบรับทุกความฝันของชุมชน

3 นาที

3

Share to

มีนาคม 17, 2025

3 นาที

3

มีนาคม 17, 2025

Share to

“มาแล้วค่ะ ตัวแม่พัทยา ตัวมารดาทิฟฟานี่ แล้วนี่ก็ทีมที่ปลุกปั้นโชว์กันมาตั้งแต่วันแรก”

เสียงแนะนำของทีมงานจากทิฟฟานี่ดังลอดเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงประตูสตูดิโอเสียอีก วันนี้ Spectrum มีนัดกับทีมงานจากทิฟฟานี่โชว์ พัทยา ที่ให้เกียรติเดินทางไกลมาหาเราถึงกรุงเทพฯ ทันทีที่รถตู้จากพัทยามาถึงเราก็ได้รู้ว่านอกจากพวกเราที่คอยสัมภาษณ์อยู่แล้ว ก็มีเพื่อน พี่ น้อง จากครอบครัวทิฟฟานี่คนอื่น ๆ มารอต้อนรับและทักทายแขกคนสำคัญจากพัทยาเช่นกัน ที่สตูดิโอวันนั้นมีงานปฐมนิเทศน์ของผู้เข้าประกวด Miss Tiffany’s Universe 2025 เสียงทักทายของพี่น้องที่ได้เดินทางมาเจอกันอีกครั้ง และลูก ๆ ที่รอเจอตัวแม่จากพัทยาจึงดังเป็นระยะทั่วบริเวณสตูดิโอ

หลังการทักทาย การแนะนำ หยอกล้อ และอวยยศกันเสร็จสิ้น เรานั่งคุยกับพี่อ๊อด พี่ติ๋ม พี่เสือ และมิสเตอร์เคนเพื่อถามถึงพื้นที่ปลอดภัยของคนข้ามเพศที่รู้จักกันดีในชื่อ ‘ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา’

#หลังม่านทิฟฟานี่

“ชื่ออ๊อดค่ะ ก่อนมาทำเบื้องหลังก็เป็นคนโชว์คนแรก แต่ก่อนแสดงคนเดียวเลย” 

ทุกคนคะยั้นคะยอให้พี่อ๊อดแนะนำตัวเป็นคนแรก เพราะเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งของ ‘ทิฟฟานี่’ พี่อ๊อดเล่าว่าเริ่มจากเพื่อนชื่อ ‘ตี๋’ (คุณวิชัย เลิศฤทธิ์เรืองสิน หรือ อั้งตี๋ แซ่ลิ้ม) ที่เปิดบาร์เกย์เล็ก ๆ ที่พัทยา แต่ไม่มีลูกค้ามากนักเพราะในสมัยนั้นการเป็นเกย์ยังต้องหลบซ่อน จึงเกิดไอเดียนำการแสดงประกอบเพลงฝรั่งเข้ามาเป็นโชว์เรียกลูกค้า ที่ปรากฎว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนต้องรับสมัครนักแสดงเพิ่ม จากเดิมที่เป็น One man show ตลอดทั้งคืน จึงเกิดเป็นการฟอร์มทีมของ ‘รุ่นที่สอง’ นำโดยพี่ติ๋ม 

“พี่ติ๋มค่ะ เป็นรุ่นสอง มาเริ่มตั้งอายุ 17-18 เรียนจบก็มาเลย ผมสั้นมาเลย”

ส่วนมิสเตอร์เคนเริ่มเข้าทำงานหลังการถูกชักชวนให้เข้ามาเป็นทีมเบื้องหลังเรื่องเทคนิคการโชว์ หลังมีค่ำคืนที่ประทับใจกับการชมโชว์จากนักแสดงทิฟฟฟานี่ มิสเตอร์เคนไม่ได้ตอบตกลงในทันที เขาบินกลับออสเตรเลีย แต่ก็ตัดสินใจกลับมาลองเริ่มต้นงานด้วยความคิดว่าคงอยู่ทำไม่กี่เดือน– ตอนนี้ผ่านมา 20 กว่าปีแล้วจากการตัดสินใจเริ่มงานในวันนั้น

พี่เสือคือคนที่เข้ามาร่วมล่าสุด แต่ก็เป็นครอบครัวทิฟฟานี่มากว่า 10 ปีแล้ว และรับหน้าที่ในการทำตลาด ขยายฐานลูกค้า ความสำเร็จของทิฟฟานี่โชว์ก็พิสูจน์แล้วว่าทีมงานเหล่านี้ ที่ร่วมมือกับอีกหลายสิบชีวิตที่ทิฟฟานี่ ทำให้ Tiffany’s Show Pattaya เป็นได้ทั้งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและพื้นที่ปลอดภัยของชุมชนเพศหลากหลาย

#จุดเริ่มต้นของเควียร์ซิตี้ – พัทยาในวันที่(ยัง)ไม่มีทิฟฟานี่โชว์

“แต่ก่อนพัทยาไม่ใช่อย่างนี้นะ เป็นเกย์ก็ต้องแอบ ๆ บาร์เกย์ก็ไม่มี ต้องแอ๊บแมนกันหมด พอเพื่อนมาเปิดบาร์เกย์ที่แรกก็เล็ก ๆ แอบ ๆ”

พี่อ๊อดเล่าย้อนไปถึงพัทยาที่เราไม่เคยรู้จัก พัทยาที่ไม่มีเกย์ออกสาวอย่างเปิดเผย ไม่มีพี่กะเทยผมยาวใส่ส้นสูง ในวันนั้นพัทยายังไม่ใช้พื้นที่ที่จะถูกเรียกขานได้ว่าบ้านของ ‘ชาวเรา’ จนกระทั่งปีพ.ศ. 2517 ที่คุณตี๋ วิชัย เลิศฤทธิ์เรืองสิน เซ้งต่อ ‘ทิฟฟานี ค็อกเทลเล้าจน์’ มาบริหารแล้วเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป็นเกย์– นั่นคือบาร์เกย์แห่งแรกในพัทยา

“เปิดมาแล้วประมาณ 3-4 วันแต่ไม่มีคนเลย เพราะสมัยก่อนเกย์เขาจะไปอยู่ชายหาดกัน เขาจะไม่เผยตัว ก็เลยคิดกันว่าจะทำยังไงดีนะให้คนที่เป็นเกย์มาเที่ยวบาร์เกย์ จบที่เอาพี่ไปแต่งผู้หญิงโชว์ คืนแรกเลยที่จะโชว์นะ แต่งหญิงเป็นไดอานา รอสส์ แล้วก็ถ่ายรูปเป็นใบปลิวขาวดำ เช่ารถสองแถวไปแจกแล้วใช้ลำโพงประกาศไปว่าคืนนี้จะมีดาราต่างประเทศมาโชว์ พอกลางคืนคนก็มากันเต็ม คนเยอะจนเบียดกระจกแตก บางคนก็ตกลงไปในสระน้ำ อันนั้นเป็นโชว์แรกของทิฟฟานี่”

การโชว์ในตอนนั้นนับว่าเป็นครั้งแรกในพัทยา และถูกบันทึกไว้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการแต่งตัวเป็นนักร้องดังแล้วแสดงโชว์ร้อง เล่น เต้น กระโดด กระแสตอบรับในตอนนั้นดีจนถึงขั้นมีการวางมวยมาแล้ว 

“เมื่อก่อนที่นั่งมันไม่มีเบอร์โทรจองไง เขาก็ทะเลาะกัน ตีกัน ต่อยกัน คนจีน ฝรั่ง ต่อยกันใหญ่เลย  แล้วก็กลายเป็นว่าเจริญ สถานที่ก็ไม่พอ ที่นั่งก็ไม่พอ เราก็เลยย้ายมาที่ใหม่”

จากบาร์เล็ก ๆ ของกลุ่มคนที่เคยหลบ ๆ ซ่อน ๆ กลายเป็นโรงละครขนาด 400 และชื่อเสียงของนักแสดงทิฟฟานี่โชว์ก็เลื่องลือไปไกลจนถึงต่างประเทศ ชาวทิฟฟานี่เคยไปแสดงหลากหลายประเทศ สร้างชื่อเสียงให้พัทยาและประเทศไทย และความ ‘ดัง’ นี้แหละที่ทำให้ LGBTQ+ หลายคนหลั่งไหลมาที่พัทยา เพราะรู้ว่าที่นี่มีคนแบบเรา พี่ติ๋มเล่าว่าตอนที่มาพัทยาก็เพราะรู้ว่าที่นี่มีโอกาส

“ตอนที่พี่มามันเป็นเมืองของเรา คือมองไปก็จะเห็นสาวประเภทสองมั่ง ตุ๊ดมั่ง เกย์มั่ง ถ้าเราออกจากพัทยาแล้ว สมัยก่อนนะ ชาวบ้านก็จะมองสายตาแปลก ๆ รุ่นพี่อ๊อดนี่หลายคนกลางวันก็เป็นผู้ชาย ก็แต่งชาย ไปเที่ยวไหนจะได้ดูไม่แตกต่าง”

พี่ ๆ ยังช่วยกันเสริมว่าสมัยนั้นการหางานค่อนข้างยาก การเปิดตัวเป็นเกย์ หรือสาวประเภทสอง หมายถึงการยอมรับว่าจะถูกปฏิเสธจากงาน พี่ติ๋มเล่าว่าเคยมีช่วงที่ถึงขั้นต้องกินเหล้าย้อมใจทุกครั้งก่อนจะสัมภาษณ์งานเพราะรู้ว่าต้องถูกปฏิเสธเพราะอัตลักษณ์ทางเพศ แม้รู้ว่าไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่การต้องทนการถูกปฏิเสธซ้ำ ๆ ในวัยที่ไม่มีประสบการณ์มากนักและไม่มีพื้นที่ปลอดภัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าการถูกปิดกั้นเพราะเพศไม่เกิดขึ้นเมื่อพี่ติ๋มมาสมัครงานกับพี่อ๊อดที่ทิฟฟานี่

“เราบอกเขาเลยว่าหนู เที่ยวหน้ามาห้ามเมาแล้วนะ ไม่ต้องย้อมใจ พอเจอกันอีกรอบก็เลยเห็นแล้วว่าดี มีพรสวรรค์ ก็ได้แสดงเป็นตัวแทนเลยนะ สลับวันหยุดกันให้เราพักบ้าง”

#ไม่ใช่แค่เควียร์ไทยแต่คือความปลอดภัยของเควียร์โลก

พี่เสือเล่าว่ากลุ่มผู้ชมของทิฟฟานี่มีหลากหลาย ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยงจำนวนมากมุ่งหน้ามาที่ประเทศไทยเพื่อดูทิฟฟานี่โชว์ มีการแลกเปลี่ยนในวงสนทนาว่าผู้ชมมีทั้งครอบครัวที่มาดูโชว์สวยงาม ต่างชาติที่มาดูโชว์วัฒนธรรม และคนเพศหลากหลายที่มาส่งเสียงให้กำลังใจพวกพ้อง 

“บางคนอยู่บ้านเป็นตัวเองไม่ได้ก็จองตั๋วมานี่ มาเป็นตัวเองที่นี่แหละ”

“เปิดไฟปุ๊บอาจจะแมนปั๊บ ก็ต้องเข้าใจกัน”

แต่เรารู้กันว่าพื้นที่ปลอดภัยในพัทยาไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพราะคนเพศหลากหลายเกิดมารวมตัวกัน แต่เป็นการต่อสู้โดยใช้การแสดง แสง สี ท่วงท่าและความสวยงาม พี่อ๊อด พี่ติ๋ม และมิสเตอร์เคนเล่าว่าทุกการแสดงคือการช่วงชิงพื้นที่ ถ้าแสดงยิ่งสวย ยิ่งดี คนยิ่งพูดถึง ยิ่งเป็นตำนาน ยิ่งเสียงดังเท่าไหร่ คนรุ่นใหม่ ๆ ก็ยิ่งรู้ว่ามีรุ่นพี่อยู่ที่นี่ และทิฟฟานี่สร้างพื้นที่ปลอดภัยมาแล้วจากรุ่นสู่รุ่น ก้าวเข้าสู่ปีที่ 51 ที่โอบอุ้มความหลากหลาย 

“เราไม่ได้ขายโชว์แปลก เอาสาวสองมาขาย เราโชว์ศิลปะ ความงาม เราแต่งเพลง ซ้อมเต้นจริงจัง”

“แสงสีเสียง โหนสลิง ลอยฟ้า เสื้อผ้าหน้าผม ทุกอย่างเป๊ะหมด มันเป็นเกียรติยศเรา”

วันนี้พัทยาเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งความหลากหลาย เมืองแห่งสีสัน และไม่เกินจริงเลยหากจะกล่าวว่าคนเพศหลากหลายและ ‘ทิฟฟานี่โชว์’ เป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนเมืองพัทยา และแน่นอนว่าประเทศไทยด้วย

#เป้าหมายต่อไปของตำนาน/ ทีมงานทิฟฟานี่

“เรามาถึงจุดสุดยอดแล้วแหละแค่เนี้ยก็ฝันไว้แค่นี้ เวลาได้ยินคนพูดว่าเกิดเป็นกะเทยทั้งทีจะต้องได้เป็นนางโชว์ทิฟฟานี่หรือว่ามิสทิฟฟานี่ เราก็ภูมิใจนะ ที่ว่าเขาเกิดมาทั้งชาติก็อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเรา”

พี่เสือเสริมว่าแม้วันนี้ประเทศไทยจะก้าวใกล้เส้นชัยของ ‘ความเท่าเทียม’ ขึ้นเรื่อย ๆ แต่พื้นที่อย่างทิฟฟานี่โชว์ยังคงสำคัญและรอต้อนรับคนที่ต้องการพักผ่อนจากโลกที่ไม่อนุญาตให้เป็นตัวเอง และพร้อมต้อนรับสำหรับทุกคนที่ “อยากดูโชว์คุณภาพจากนักแสดงคุณภาพเยี่ยม” คุณเคนก็การันตีว่าเทคนิคการแสดงของทิฟฟานี่ไม่แพ้ที่ไหน ทั้งเรื่องราวที่ตั้งใจเรียงร้อยและแสงสีที่ออกแบบมาอย่างปราณีต

เราถามพี่ ๆ ต่อว่าคิดว่าประเทศไทยมาไกลแค่ไหนจากวันที่พี่ ๆ เริ่มต้นโชว์ที่พัทยา ในวันที่เรายังไม่มีบาร์เกย์ ไม่มีนางโชว์กะเทย ไม่มีสมรสเท่าเทียม และพวกเราหลายคนไม่มีความฝัน ไม่มีความหวัง และไม่กล้าเป็นตัวเอง

“ที่แน่ ๆ ตอนนี้กะเทยเป็นอะไรก็ได้ ไม่ต้องมาสมัครแค่กับทิฟฟานี่ กะเทยเป็นครู หมอ เป็นได้หมด เหลือแค่นายกนี่แหละที่ยังไม่เห็น”

#SafeSpace #QueerSpace #Tiffanyshow #TiffanyShowPattaya #PattayaCity 

Content by Kantamas P.

Graphic by Frogman

#SPECTRUM #พื้นที่ความคิดของทุกสีสัน

“กรุณาแสดงความเห็นอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ ทีมงานสงวนสิทธิ์ในการลบหรือดำเนินการตามสมควร กับความเห็นที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น”

a senior baby girl